
กิลด์
- สถานที่ของกลุ่มคนที่รวมตัวกันเป็นองค์กร เป็นสื่อกลางในการให้ข้อมูลข่าวสารและภารกิจของการทำงาน และคอยรับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้าน เพื่อให้ทำงาน แลกกับเงินที่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับงาน โดยกิลด์มีอยู่หลายประเภทได้แก่กิลด์พ่อค้า กิลด์อุตสาหกรรม กิลด์นักสู้ กิลด์จอมเวท กิลด์นักล่าสมบัติ กิลด์จอมโจร
- กิลด์จอมเวท
- สถานที่ที่จอมเวทรวมตัวกัน เป็นสื่อกลางในการให้ข้อมูลข่าวสารและภารกิจของเหล่าจอมเวท และคอยรับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้าน เพื่อให้เหล่าจอมเวทไปคลี่คลายปัญหาให้ แลกกับเงินที่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความโหดหินของงาน โดยจอมเวทระดับทั่วไปจะทำภารกิจง่าย ๆ ส่วนจอมเวทระดับ S Class จะรับทำภารกิจที่ยากกว่า และภารกิจระดับ S จะได้เงินสูงกว่าภารกิจทั่วไป และไม่คุ้มกับชีวิตถ้าพลาดก็ตาย ระบบกิลด์ จะถูกควบคุมโดยสภาจอมเวท ซึ่งกิลด์ไหนที่มีความอันตรายมาก จะถูกสภาบัญญัติว่าเป็นดาร์คกิลด์ หรือ กิลด์แห่งความมืด ซึ่งกิลด์พวกนี้ก็ถูกหมายหัวว่าจะต้องถูกกำจัดให้สิ้น และในกฎของสภาจอมเวทที่มีกฎว่าห้ามให้กิลด์ทำสงครามระหว่างกิลด์ โดยระบบของกิลด์จอมเวทที่จะมีได้คือ มี 1 กิลด์ ต่อ 1 เมืองเท่านั้น ห้ามมีมากกว่า 1 โดยเด็ดขาด แต่ถ้ากิลด์จอมเวทมีสาขาย่อยที่เมืองอื่นโดยที่เมืองอื่นนั้นไม่มีกิลด์จอมเวทจะไม่เป็นไร
- ตราสัญลักษณ์ประจำกิลด์
- ในเฉพาะกิลด์จอมเวท จะมีตราสัญลักษณ์ เป็นเหมือนรอยสัก บนส่วนต่างๆของร่างกาย โดยทุกคนจะมี เพื่อบ่งบอกว่าเป็นจอมเวทประจำกิลด์นั้น
- จอมเวทของกิลด์
- จอมเวทของกิลด์โดยสมาชิกในกิลด์ทุกคนจะมีตราสัญลักษณ์ประจำกิลด์กันทุกคน แต่เมื่อถูกขับออกไปสัญลักษณ์จะถูกลบออกไป
- จอมเวท
- คือคนที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ แต่จะเป็นจอมเวทอย่างเต็มตัวได้เมื่ออายุ 15 ขึ้นไป
- จอมเวทระดับ S
- จอมเวทจะรับทำภารกิจที่ยากกว่า และภารกิจระดับ S จะได้เงินสูงกว่าภารกิจทั่วไป และไม่คุ้มกับชีวิตถ้าพลาดก็ตาย จอมเวทระดับ S คือจอมเวทที่เก่งกาจจากการเลือกของกิลด์มาสเตอร์ ซึ่งเป็นพวกที่มีคุณสมบัติเป็นกิลด์มาสเตอร์คนต่อไป
- กิลด์มาสเตอร์
- ผู้นำหรือผู้ดูแลกิลด์ที่มีอำนาจสูงสุดในกิลด์ เป็นผู้รับผิดชอบของกิลด์ที่ดูแล
- รองกิลด์มาสเตอร์
- รองผู้นำหรือผู้ดูแลกิลด์ที่มีอำนาจรองลงมาจากกิลด์มาสเตอร์ เป็นที่ปรึกษาของมาสเตอร์ โดยรองกิลด์มาสเตอร์เป็นจอมเวทระดับ S
- ภารกิจ
- ภารกิจที่สมาชิกประจำกิลด์จอมเวททำหน้าที่ตามที่ได้รับร้องขอมา เมื่อทำสำเร็จจะได้รับเงินรางวัล โดยแต่ละระดับของงานจะมีจำนวนเงินตามงานที่ได้รับ ยิ่งงานยาก เงินยิ่งสูงความเสี่ยงยิ่งมาก
- ภารกิจระดับ S
- เป็นภารกิจสำหรับจอมเวทระดับ S ที่ควรทำโดยได้รับเงินมูลค่ามากถ้าทำสำเร็จ โดยในภารกิจมีสิทธิถึงตาย ไม่คุ้มกับเงินที่สูงมาก
- ภารกิจระดับ SS
- เป็นภารกิจสำหรับจอมเวทระดับ S แต่ว่าภารกิจนั้นเป็นเครส ที่มีเวลาทำภารกิจที่นาน ที่เป็นระดับถึง 10 ปี โดยระดับที่สูงสุดคือระดับ 100 ปี
- กิลด์แห่งความมืด
- กิลด์จอมเวทที่ไม่ได้อยู่ในเครือสภาจอมเวท หรือเป็นกิลด์ที่อยู่ในเครือแต่เพราะทำความผิดขั้นรุนแรงจนถูกริบสิทธิของสภาไปจนถูกปลดออกไป ซึ่งกิลด์พวกนี้ก็ถูกหมายหัวว่าจะต้องถูกกำจัดให้สิ้น
- กิลด์เสรี
- เป็นกิลด์ที่ไม่ขึ้นตรงต่อสภา และก็ไม่ใช่กิลด์ที่อยู่ในสมาพันธ์บาลาม แต่จะถูกสภาจัดในเครือกิลด์แห่งความมืดในอีกแบบ เพราะเป็นกิลด์ที่สร้างขึ้นมาโดยที่เป็นอิสระ โดยไม่ก่อเรื่องชั่วร้ายเหมือนกิลด์แห่งความมืด แต่คอยไล่กำจัดกิลด์แห่งความมืด ซึ่งทางสภาจอมเวทก็ไม่ยอมรับเพราะว่าทางสภาต้องคอยเก็บกวาดทีหลัง
- สภาจอมเวท
- แหล่งรวมผู้นำของเหล่าจอมเวท เพื่อความสามารถในการปกครองโลกจอมเวทและโลกมนุษย์ที่ออกกฎหมายและปราบปรามความผิดของผู้ที่ฝ่าฝืนกฎและกิลด์แห่งความมืด มีสิทธิ์ที่จะสามารถยุบกิลด์ได้ เหมือนกับนักการเมือง ตำรวจ และทหาร โดยมีสิทธิยกเลิกพันธสัญญากับกุญแจประตูเทพแห่งดวงดาว เมื่อเจ้านายถูกจับโดยสภาจอมเวท ซึ่งสัญลักษณ์ของสภาจอมเวทคือไม้กางเขนที่มีห่วงแบบอียีปต์
- สมาชิกของสภา
- เป็นจอมเวทผู้อาวุโส กับผู้ที่เป็นที่นับถือในเรื่องโดยที่เป็นสมาชิกของสภาโดยมีกัน 8 คน
- ประธานสภาจอมเวท
- คือผู้มีอำนาจสูงสุดในผู้นำสภาจอมเวท มีสิทธิการตัดสินใจที่เด็ดขาด ที่อยู่เหนือกว่าสมาชิกของสภาอีก 8 คนที่เหลือ
- สงครามกิลด์
- คือการที่แต่ละกิลด์ทำสงครามกัน หรือในกิลด์ทำสงครามกันเอง โดยสภาจอมเวทสั่งว่าห้ามทำสงครามกันไม่ว่าจะเป็นกิลด์จอมเวท หรือกิลด์แห่งความมืด สงครามในเรื่อง ได้แก่
- แฟรี่เทล - แฟนท่อมลอร์ด - ผลออกมาแฟรี่เทลชนะ
- แฟรี่เทล - หน่วยเทพอัสนีบาต (ทีมเวทย์ที่ใกล้ระดับ S ในแฟรี่เทล) - ผลออกมาแฟรี่เทลชนะ
- พันธมิตรจอมเวทย์ (แฟรี่เทล บลูเพกาซัส ลาเมียร์สเกล และเคทเชลเตอร์) - โอราเชี่ยนเซสและกิลด์ภายในสังกัดทั้งหมด - ผลออกมาพันธมิตรชนะ
- แฟรี่เทล - กริมมัวร์ ฮาร์ท - ผลออกมาแฟรี่เทลชนะ
- แฟรี่เทล (มังกรคู่ของเซเบอร์ทูธคอยหนุน) - ทาร์ทารอส - ผลออกมาแฟรี่เทลชนะ
- ทีมนัตสึ (ทีมในแฟรี่เทล พร้อมกับกาซิล จูเบีย ลิลลี่ เรวี่คอยช่วย) - อวตารกับสาขาย่อยทั้งหมดในเครือ -ผลออกมาทีมนัตสึชนะ
- จีเวล
- หน่วยเงินตราในโลกของแฟรี่เทล (J.)
- โลกเทพแห่งดวงดาว
- เป็นสถานที่ที่พวกเทพแห่งดวงดาวอาศัยอยู่ ถ้าสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่เทพแห่งดวงดาวไปอยู่ที่นั่นจะขาดอากาศหายใจตายไปแต่ถ้าใส่เสื้อผ้าจากโลกเทพแห่งดวงดาวก็จะไม่เป็นไร การไหลของเวลาที่โลกเทพแห่งดวงดาวจะแตกต่างจากโลกมนุษย์ คือ เวลา 1 วันของโลกเทพแห่งดวงดาว จะเท่ากับเวลาบนโลกมนุษย์ผ่านไป 3 เดือน (อ้างอิงจาก Season 4 ตอนก่อนที่จะเริ่มมีงานประลองเวทมนตร์)
- เสื้อผ้าจากโลกเทพแห่งดวงดาว
- เป็นแบรนด์ของโลกเทพแห่งดวงดาว ซึ่งแต่ละชุดนั้นเป็นแนวคู่รัก ไม่ก็ชุดแนวแฟชั่น โดยทุกชุดนั้นมีความสามารถพิเศษคือ เมื่อสิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่ใช่เทพแห่งดวงดาวเข้ามาในโลกเทพแห่งดวงดาวจะขาดอากาศหายใจตาย แต่ถ้าสวมใส่เสื้อผ้าจากโลกเทพแห่งดวงดาวจะสามารถอยู่ได้อย่างไม่เป็นไรแต่ต้องสวมตลอดเมื่ออยู่ในโลกเทพแห่งดวงดาว ไม่งั้นจะขาดอากาศหายใจตาย
- กุญแจประตูเทพแห่งดวงดาว
- เป็นกุญแจที่ใช้ในการอัญเชิญเทพแห่งดวงดาว (มีทั้งกุญแจเงินและกุญแจทอง กุญแจทองเป็นกลุ่มดาว 12 ราศี มีแค่ราศีละดอกเท่านั้น ส่วนสีเงินเป็นกลุ่มดาวที่สามารถหาได้ทั่วไป) โดยเทพดวงดาวกับจอมเวทอัญเชิญจะมีการทำพันธสัญญา "เจ้านาย-ผู้รับใช้" ไว้ หากเจ้านายเสียชีวิตหรือขอยกเลิกสัญญา หรือถ้าเจ้านายถูกจับโดยสภาจอมเวท พันธสัญญาก็จะถูกยกเลิก เทพดวงดาวก็จะเป็นอิสระ แล้วกลับโลกเทพแห่งดวงดาวไป โดยเทพแห่งดวงดาวนั้นจะออกหาเจ้านายคนใหม่ โดยเจ้านายคนใหม่ต้องเป็นคนที่ฆ่าเจ้านายคนเก่าหรือคนที่เป็นจอมเวทใช้เทพแห่งดวงดาวที่เคยเจอกับถูกใจ หรือรู้จัก ไม่ก็เจ้านายคนเก่ายอมถอนสิทธิยกให้คนอื่นไปเอง โดยคนนั้นจะเป็นเจ้านายได้ หรือถ้าเจ้านายคนก่อนหมดสิทธิไปแล้วนั้น โดยกุญแจเทพแห่งดวงดาวที่ไม่มีเจ้าของ ถูกใครที่เก็บได้ทำพันธสัญญากันก็จะเป็นเจ้านายทันที ในกรณีที่ใครขโมยกุญแจไปจะไม่สามารถใช้เทพแห่งดวงดาวได้ เพราะคนที่ใช้กุญแจได้ต้องเป็นเจ้าของคนปัจจุบันกุญแจเท่านั้น โดยหน่วยเรียกเทพแห่งดวงดาวคือ ตัว เมื่อเรียกเทพแห่งดวงดาวมาจะสามารถใช้สั่งการได้แต่จากที่ความสามารถของเทพแห่งดวงดาวนั้นทำได้ ยิ่งเจ้านายมีพลังเวทมาก เทพแห่งดวงดาวก็จะเก่งขึ้นตามระดับพลังของเจ้านาย ยิ่งเจ้านายมีพลังเวทเพิ่มขึ้นมาก เทพแห่งดวงดาวจะจะสามารถออกมาเองได้ เมื่อเทพแห่งดวงดาวนั้นบาดเจ็บเกินว่าจะรักษาตัวหรืออยู่บนโลกมนุษย์นานเกินไป ก็จะสลายไป แต่ถึงกลับไปที่โลกเทพแห่งดวงดาวก็จะสามารถฟื้นตัวได้แต่ต้องใช้เวลา แต่เมื่อกุญแจถูกทำลาย ต้องใช้เวลา 1 ปี ในการที่กุญแจเกิดใหม่ที่ไหนสักแห่งบนโลก ใครที่เก็บได้คนแรกก็เป็นเจ้าของในทันที
- Gold Key
- เป็นกุญแจเทพดวงดาวกลุ่ม 12 ราศี มีเพียง 12 ดอก เท่านั้นในโลก แต่ยังมีอีก 1 ดอกเป็นกุญแจลับซึ่งซ่อนอยู่จาก 12 จักรราศี ถ้าใครรวบรวมกุญแจเทพดวงดาวกลุ่มครบ 12 ราศี จะสามารถได้พลังที่สามารถเรียกเทพแห่งดวงดาวกี่ตัวก็ได้ แต่พลังเวทที่เรียกจะจำกัดเหมือนเดิมถ้าฝึกมากๆ เจ้าของจะมีพลังเวทในตัวมาก เทพแห่งดวงดาวจะสามารถออกมาเองได้แบบไม่ต้องเรียก
- อควอเรียส (Aquarius) - ราศีกุมภ์จากกลุ่มดาวคนถือคนโทน้ำ เป็นเทพดวงดาวที่มีรูปร่างเหมือนนางเงือกและยังเป็นแฟนกับสกอร์เปี้ยนด้วย โจมตีด้วยน้ำที่ไหลมาจากคนโท นิสัยเห็นแก่ตัวและไม่ชอบเจ้านายตัวเองซึ่งคือลูซี่ และสามารถเรียกได้เฉพาะที่ๆ มีน้ำ ในช่วงก่อนหน้าที่ลูซี่จะมีเลโอ เป็นเทพแห่งดวงดาวที่เก่งที่สุดของลูซี่ ใช้พลังเวทในการอัญเชิญเยอะที่สุด และอัญเชิญได้เฉพาะวันพุธเท่านั้น แท้จริงแล้วมีเหตุผลบางประการที่ทำให้ผิดใจกับลูซี่ อควอเรียสเคยเป็นเทพแห่งดวงดาวของกรัมมี่แม่ของบรันดิช เจ้าของคนก่อนคือเลย์ล่า แม่ของลูซี่มาก่อน และจากการปะทะกับทาร์ทารอส อควอเรียสได้บอกว่าตนรู้สึกผิดหวังที่มีเจ้านายต่อจากเลย์ร่าคือลูซี่ จนอยู่ด้วยกันมาตลอด เพราะลูซี่เป็นลูกสาวของเลย์ล่า อยู่คนเดียวมาตลอด แต่พอลูซี่มาอยู่กิลด์ลูซี่ก็เปลี่ยนไปเป็นคนมีเพื่อน ซึ่งอควอเรียสขอร้องให้ลูซี่ทำลายกุญแจตนเพื่อเรียกราชาเทพแห่งดวงดาว ตอนแรกลูซี่ไม่ยอมแต่ต่อมาลูซี่ก็ยอม หลังจากเรียกราชาเทพแห่งดวงดาวออกมา โดยราชาเทพแห่งดวงดาวได้เปลี่ยนพลังเวทของอควอเรียสเป็นพลังให้ลูซี่เพื่อสู้ต่อ แต่ว่าในปี X792 จู่ๆ อควอเรียสก็กลับมาหาลูซี่ได้อีก เพื่อบอกความจริงของแผนในตระกูลของลูซี่กับสาเหตุการณ์ตายของเลย์ล่ากับกรัมมี่ ให้ลูซี่กับบรันดิชรู้ จนทั้งคู่เข้าใจ จากนั้นบอกลูซี่ว่า กุญแจที่ถูกทำลาพอผ่านไป 1 ปี จะไปเกิดใหม่บนโลก กับไม่ให้คำใบ้ เพราะเชื่อว่าลูซี่จะต้องหาเจอ
- ทอรัส (Taurus) - ราศีพฤษภจากกลุ่มดาววัว เป็นเทพดวงดาววัวรูปร่างล่ำสัน มีขวานยักษ์เป็นอาวุธ มีพละกำลังทางกายมากที่สุดในเทพดวงดาว 12 ราศี นิสัยออกลามก ดูจะถูกอกถูกใจหน้าอกของลูซี่เป็นพิเศษ ชอบเรือนร่างที่งดงามของสตรีเป็นที่สุด อัญเชิญได้ในวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ และวันเสาร์
- แคนเซอร์ (Cancer) - ราศีกรกฎจากกลุ่มดาวปู เป็นเทพดวงดาวช่างตัดผมของลูซี่ สามารถตัดเสื้อผ้าได้ เวลาพูดลงท้ายด้วย "กุ้ง" อัญเชิญได้ในวันอังคาร วันพฤหัสบดี วันเสาร์และวันอาทิตย์ ในช่วงท้ายบางครั้งเปลี่ยนคำพูดเป็นกรรไกร เพราะคำสบประมาทของเอลซ่า แคนเซอร์เคยเป็นเทพแห่งดวงดาวของเลย์ร่า แม่ของลูซี่มาก่อน โจมตีด้วยการใช้กรรไกรเป็นอาวุธ แต่กรรไกรนั้นเน้นแต่ตัดเสื้อผ้ากับผมและหนวดเท่านั้น
- เวอโก้ (Virgo) - ราศีกันย์จากกลุ่มดาวหญิงสาว เป็นเทพดวงดาวเมดสาวผู้ซื่อสัตย์ต่อเจ้านาย สามารถขุดเจาะ ดำดินได้ เดิมทีมีรูปร่างหน้าตาสวย แต่ด้วยความซื่อสัตย์ต่อเจ้านายคนเก่าคือเอวาลูเลยเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาให้อัปลักษณ์จนนัตสึเรียกเธอว่า 'ยัยเมดกอริลล่า' แต่พอได้ลูซี่เป็นเจ้านายคนใหม่แล้ว เลยเปลี่ยนรูปร่างเป็นสาวสวยเหมือนเดิม (อ้างอิงจากอะนิเมะตอนที่ 7) ตามที่ลูซี่ต้องการอยากจะเป็น ในตอนหลังมาผู้เขียนได้ใส่ความสามารถในการต่อสู้ให้เธอด้วยการขุดหลุมด้วยหรือบางทีเธอก็ใช้โซ่ที่ข้อมือตนเองในการต่อสู้ สามารถอัญเชิญได้ทุกวัน เวอร์โก้ชอบพูดคำติดปากว่า "จะลงโทษดิฉันหรือคะ" แม้ลูซี่จะชมเชยก็ตาม และชอบเรียกลูซี่ว่า "องค์หญิง" และเรียกเลโอว่า พี่ เพราะเลโอขอร้องมา เวลาลูซี่เรียกเลโอไม่ได้ เพราะเลโอไปเดท เวอร์โก้ก็จะมาแทน ขนาดตอนเวอร์โก้โดนลงโทษก็ดีใจกับของให้ลงโทษแรงๆ อีก เพราะเวอร์โก้เป็นพวกมาโซชื่นชอบการโดนลงโทษประจำ
- ซาจิทาเรียส (Sagittarius) - ราศีธนูจากลุ่มดาวคนยิงธนู เป็นเทพดวงดาวมนุษย์ครึ่งคนครึ่งม้า คือ เป็นคนแต่สวมหัวม้า ยืน 2 ขา ใช้ธนูเป็นอาวุธ เวลาพูดมักจะลงท้ายด้วย "ฮัลโหล" ถ้าพากย์ญี่ปุ่นจะพูดลงท้ายว่า "โมชิโมชิ" เป็นกุญแจที่ลูซี่ได้รับมาตอนแอบไปทำภารกิจระดับ S ที่เกาะกาลูน่ากับนัตซึ เกรย์และแฮปปี้ ที่เกาะการูน่า ซาจิทาเรียสมีทักษะการยิงธนูที่ยอดเยี่ยม เลโอเคยชมเชยว่า "ไม่เคยยิงพลาดเป้า" สามารถยิงทำเกิดประกายไฟได้
- เลโอ (Leo) - ราศีสิงห์จากกลุ่มดาวสิงโต ชายที่ส่แว่นกันแดดกับใส่สูท ที่ถูกทำโทษเพราะฆ่าผู้ใช้เทพแห่งดวงดาวคนเก่าจนต้องออกจากยศเทพแห่งดวงดาว จึงเปลี่ยนชื่อเป็นโลกิเพื่อนใช้ชีวิตเป็นจอมเวมของแฟรี่เทล ซึ่งมีแหวนเวทมนตร์ กับเวทแสง ภายหลังได้ลูซี่ช่วยไว้จึงได้สถานภาพเช่นเดิม โดยสามารถเรียกออกมาได้ทุกที่ทุกวันทุกเวลา และยังเป็นเทพกลุ่มดาวตนเดียวที่ออกมาเองได้โดยที่ไม่ต้องเรียก แต่ออกมาเองได้บางครั้ง ขนาดกุญแจไม่อยู่กับเจ้าของยังออกมาได้ ถึงแม้จเป็นเทพแห่งดวงดาวก็ยังเป็นสมาชิกของแฟรี่เทลอยู่ เขาเลือกที่จะติดตามและเชื่อมั่นในตัวลูซี่เนื่องจากลูซี่เป็นคนที่มีจิตใจที่รักกับเทพแห่งดวงดาวอย่างแท้จริง ในช่วงหลังเลโอสนใจลูซี่ เจ้านายคนเก่าคือคาเรน ทำให้ช่วงแรกมีอคติกับผู้อัญเชิญเทพแห่งดวงดาว แต่ด้วยความอบอุ่นของลูซี่ทำให้โลกิหรือเลโอสามารถกลับเข้าไปในโลกเทพแห่งดวงดาวและมีชีวิตอยู่ต่อได้ในฐานะของเทพแห่งดวงดาวของลูซี่ เป็นเทพดวงดาวสายการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเทพดวงดาว 12 ราศี และยังเป็นหัวหน้าของกลุ่มเทพดวงดาว 12 ราศีด้วย สามารถอัญเชิญได้ทุกวัน เลโอมีนิสัยเป็นเสือผู้หญิงเนื่องมาจากติดนิสัยจากคาเรนเจ้านายคนก่อนที่เจ้าชู้ชอบผู้ชายไม่เลือก เลโอสามารถเปิดประตูเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพลังเวทของเจ้านายแถมชอบเปิดประตูตามใจตัวเองอีก โดยแคร์แอเรียสคอยปกป้องแอเรียสตลอด แต่เลโอก็อยู่ในฐานะสมาชิกของแฟรี่เทล ขนาดตอนบททดสอบเอนขั้นเป็นจอมเวทระดับ S ขอถอดสัญญาชั่วคราว เพื่อเป็นคู่หูเกรย์
- แอเรียส (Aries) - ราศีเมษจากกลุ่มดาวแกะ เป็นเทพดวงดาวคนสำคัญของเลโอหรือโลกิ นิสัยเรียบร้อย ขี้อาย และชอบพูด "ขอโทษนะคะ" เป็นคำติดปาก เธอโดนกลั่นแกล้งจากคาเรนและแองเจิ้ล เจ้านายคนเก่าถึง 2 คนแต่สุดท้ายก็ได้ไปอยู่กับลูซี่ซึ่งเป็นคนอ่อนโยน ความสามารถในการต่อสู้หลักๆ คือการใช้ขนแกะในการต่อสู้ ขนแกะที่ใช้ในการต่อสู้นั้นเป็นสีชมพูหรือสีบานเย็น เป็นเทพดวงดาวที่ต่อสู้อย่างนุ่มนิ่มที่สุด
- สกอร์เปี้ยน (Scorpio) - ราศีพิจิกจากกลุ่มดาวแมงป่อง เป็นแฟนกับอควอเรียส เคยทำพันธสัญญากับแองเจิ้ล แต่ตอนที่ลูซี่สู้กับแองเจิ้ลจนชนะ พันธสัญญาจึงถูกยกเลิกและได้เจ้านายคนใหม่เป็นลูซี่ สามารถต่อสู้โดยการยิงทรายออกจากหาง พึ่งพาได้มากกว่าอควอเรียส เวลาพูด มักจะนำหน้าว่า "We Are"
- เจมินี่ (Gemini) - ราศีเมถุนจากกลุ่มดาวเด็กแฝดเจมี่กับมินี่ เคยทำพันธสัญญาไว้กับแองเจิ้ล แต่ก็ถูกยกเลิกและได้เจ้านายใหม่คือลูซี่เช่นเดียวกับสกอร์เปี้ยนและแอเรียส เจมินี่มีความสามารถในการก๊อปปี้ร่างคนตั้งแต่รูปร่าง สติปัญญา นิสัย ความสามารถรวมถึงเวทมนตร์ของคนที่ถูกก๊อปปี้ด้วยเช่นกัน (ก๊อปปี้ได้แค่ผู้ที่มีพลังเวทใกล้เคียงหรือด้อยกว่ากับเจ้านายของตนเท่านั้น) แต่เจมินี่จะกลับคืนร่างเดิมภายใน 5 นาทีหลังจากที่ก๊อปปี้เสร็จแล้ว แต่ก๊อปปี้ในคราวเดียว 2 คนไม่ได้
- คาปริคอร์น (Capricorn) - ราศีมังกรจากกลุ่มดาวแพะ เป็นคนใส่สูทที่ส่วนหัวเป็นแพะที่ใส่แว่นกันแดด โดนผู้อัญเชิญเทพแห่งดวงดาวของกริมมัวร์ฮาร์ทยึดร่างไปและได้พ่ายแพ้ในการต่อสู้กับเลโอ เทพแห่งดวงดาวของลูซี่ที่เกาะเทนโรว ทำให้ผู้อัญเชิญคนเก่าของคาปริคอร์นเสียชีวิตและได้ขอติดตามรับใช้ลูซี่เพราะคาปริคอร์นเคยเป็นเทพแห่งดวงดาวของเลย์ร่า แม่ของลูซี่มาก่อน ก่อนที่แม่ของลูซี่จะตายได้ทำสัญญาไว้ว่าเมื่อใดที่ความชั่วร้ายมาทำร้ายตระกูลของตน คาปริคอร์นจะกลับมาเป็นผู้รับใช้ของตระกูลแม่ลูซี่ต่อไป จึงทำให้ลูซี่เป็นเจ้านายทันที ความสามารถทางการต่อสู้ใกล้เคียงกับเลโอ เวลาเรียกคนอื่นนำหน้าชื่อว่าท่าน
- พิสซิส (Pisces) - ราศีมีนจากกลุ่มดาวปลาคู่ ทำพันธสัญญากับยูกิโนะ อาเกรียแห่งกิลด์เซเบอร์ทูธ เป็นปลาตัวใหญ่ที่เป็นแม่ลูกกัน ตัวสีขาวเป็นแม่ ตัวสีดำเป็นลูก สามารถแปลงร่างคนได้เพื่อสู้ได้โดยลูกจะมีอาวุธคือหอกที่ปลายหอกเป็นมีรูปร่างเป็นสัญลักษณ์ของราศีมีน แต่แม่จะสู้แบบมือเปล่า สามารถใช้เวทน้ำได้ แต่จะกลับร่างเดิมเมื่ออยู่ในน้ำและจะสู้ไม่ได้กับพึ่งไม่ได้ แต่ถ้าเป็นปลาตอนบนบกจะสู้ได้ ยูกิโนะตั้งใจจะให้ลูซี่หลังจบการแข่งขันแกรนด์เมจิค แต่แพ้ในช่วงการต่อสู้กับคางุระเลยโดนไล่ออกจากกิลด์เซเบอร์ทูธ เลยจะให้ทันทีแต่ลูซี่บอกปฏิเสธไป
- ไลบร้า (Libra) - ราศีตุลย์จากกลุ่มดาวตราชั่ง ทำพันธสัญญากับยูกิโนะ อาเกรียแห่งกิลด์เซเบอร์ทูธ มีรูปร่างเป็นร่างหญิงสาวถือตราชั่ง มีความสามารถในการเปลี่ยนแรงโน้มถ่วงของเป้าหมาย ยูกิโนะตั้งใจจะให้ลูซี่หลังจบการแข่งขันแกรนด์เมจิค แต่แพ้ในช่วงการต่อสู้กับคางุระเลยโดนไล่ออกจากกิลด์เซเบอร์ทูธ เลยจะให้ทันทีแต่ลูซี่บอกปฏิเสธไป ไลบร้าสารารถควบคุมรงโน้มถ่วงขนาดเปลี่ยนคนอ้วนให้ผอมลงได้จากตอนที่ยูกิโนะใช้เปลี่ยนสตริงที่อ้วนให้ผอมดังเดิม
- ราชาเทพแห่งดวงดาว - เป็นราชาผู้พิทักษ์โลกของเทพแห่งดวงดาว รูปร่างสูงใหญ่ มีดาบเล่มโตที่มีพลังทำลายล้างสูง (สามารถทำลายพลูโตกริม คุกยักษ์ของทาทาร์รอสด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวอย่างง่ายดาย) เป็นอาวุธประจำกาย แม้ภายนอกจะมีหน้าตาดุร้าย แต่จริงๆ แล้วเป็นเทพที่ใจดีและมีความยุติธรรม เคยเจอกับลูซี่สองครั้งโดยในครั้งแรกเป็นครั้งที่ลูซี่ขอร้องให้ยกโทษกับเลโอ (โลกิ) จนราชาเทพแห่งดวงดาวยอมกับเปลี่ยนกฏมอบบทลงโทษให้เลโอคือมีลูซี่เป็นเจ้านาย และครั้งที่สองคือครั้งที่ทีมนัตสึถูกเวอร์โก้หลอกให้เข้าไปยังโลกของเทพแห่งดวงดาวเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองที่แฟรี่เทลกลับมา แล้วก่อเรื่องให้กลับมา เป็นเทพแห่งดวงดาวตัวเดียวที่ไม่มีสื่ออัญเชิญที่เป็นรูปธรรม การจะอัญเชิญออกมาได้ จึงมีเพียงวิธีเดียว คือผู้อัญเชิญจะต้องแลกกับการทำลายกุญแจทองคำ 1 ดอกต่อการอัญเชิญหนึ่งครั้ง และผู้ที่อัญเชิญได้จะต้องมีพลังเวทย์ที่มหาศาลแฝงอยู่ในตัว ขนาดที่สามารถเรียกเทพแห่งดวงมากถึง 3 ตัวพร้อมกันได้ โดยที่เจ้านาย-ผู้รับใช้ที่มีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้งเท่านั้น ดังนั้นจึงเท่ากับว่าลูซี่สามารถอัญเชิญได้อีก 9 ครั้ง เพราะใช้ไปครั้งหนึ่งแล้ว และยูกิโนะสามารถอัญเชิญออกมาได้ 2 ครั้ง ส่วนกุญแจเทพแห่งดวงดาวที่ใช้ไปแล้วจะไม่สามารถใช้ได้อีก แต่กุญแจก็สามารถฟื้นตัวแบบไปเกิดใหม่ที่ไหนสักแห่งบนโลก
- Unknown Key
- กุญแจที่ไม่สามารถระบุประเภทได้
- ออฟฟิอุคัส (Ophiuchus) - ทำพันธสัญญากับยูกิโนะ อาเกรียแห่งกิลด์เซเบอร์ทูธ เป็นเทพแห่งดวงดาวลับที่ซ่อนอยู่จาก 12 จักรราศี เป็นเทพแห่งดวงดาวจากกลุ่มดาวคนแบกงู รูปร่างเป็นงูตัวใหญ่สีดำเกล็ดหนา
- Silver Key
- เป็นกุญแจเทพดวงดาวแบบทั่วไป ที่มีซ้ำกัน
- ครุกซ์ (Crix) หรือ ครูกซ์ หรือ ลุงครุ - เป็นเทพดวงดาวชายชรารูปร่างไม้กางเขน มีความสามารถในการเสาะหาเทพแห่งดวงดาว เป็นผู้รู้ข่าวสารกับข้อมูลต่างๆในอดีตทั้งหมดของประตูที่เชื่อมระหว่างโลกเทพแห่งดวงดาวกับโลกมนุษย์ ทั้งยังรู้ว่าในอดีตผู้อัญเชิญคนไหนเคยเรียกเทพแห่งดวงดาวคนไหนอีกด้วย (ข้อมูลในเล่ม 9) แต่ต้องใช้เวลาในการหาข้อมูล เวลาลูซี่ขอให้ช่วยสืบข้อมูล จะใช้วิธีเข้าฌาน แต่จะดูเหมือนหลับไปจนหลายคนหลงเชื่อว่าเขาหลับจริงๆ ซึ่งก็มีส่วนใหญ่ที่หลับจริง มีแต่ลูซี่เท่านั้นที่แยกออกว่าเข้าฌานหรือหลับ สามารถบอกความรู้จากการที่ตนเข้าฌานให้เจ้านายได้ แม้ว่าจะไม่ได้เรียกก็ตาม ครุกซ์ก็สามารถบอกข้อมูลให้ลูซี่ทราบได้ แต่ว่าตอนบอกมานั้นเป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดเพราะเป็นช่วงใกล้เวลานั้นที่สุด เหมือนตอนอุปราคา
- โฮโรโลเกียม (Horologium) - เป็นเทพดวงดาวนาฬิกายักษ์ สามารถหลบซ่อนหรือป้องกันตัวในตัวเขาได้ กับรักษาจอมเวทได้แต่ต้องใช้เวลามากพอตามความบาดเจ็บ แม้จะเป็นพลังเวทมนตร์ก็สามารถป้องกันได้เช่นกัน สามารถป้องกันอนิม่าได้ แต่มีระยะเวลาจำกัดในการอัญเชิญ และยังสื่อสารกับคนอื่น ๆ ให้รู้ว่า คนที่ซ่อนในตัวเขาพูดว่าอย่างไร โดยสามารถออกจากกุญแจเองได้เหมือนกับโลกิ แค่ที่ออกมาเองได้เพราะพลังเวทของเจ้าของมีเพิ่มขึ้นมาก แต่กรณีของตนจะออกมาแบบเหตุถึงชีวิต ถึงจะออกมาปกป้องได้แค่วันละครั้ง
- ไรร่า (Lyra) - เทพดวงดาวแห่งหมู่ดาวพิณ มีความสามารถในการร้องเพลงที่อ่านความรู้สึกของคนได้ แต่อัญเชิญได้เพียงเดือนละ 3 ครั้งเท่านั้น มักจะชอบบ่นลูซี่ว่าทำไมไม่ค่อยอัญเชิญเขาออกมาบ้าง
- นิโคล่า (Nikora) หรือ พลู - เป็นเทพดวงดาวลูกสุนัข อาจจะเป็นสุนัข หรือตัวสโนว์แมน เสียงร้องคือ ปุ้ง สูงพอ ๆ กับแฮปปี้ ชอบกินของหวานเป็นพิเศษ (อ่านได้ใน Plue story) และเป็นเทพดวงดาวที่ลูซี่อัญเชิญไว้ตลอดเวลาตอนไม่ได้ไปทำภารกิจ จนดูกลายเป็นสัตว์เลี้ยงไป รวมทั้งเป็น mascot ประจำเรื่องควบคู่กับแฮปปี้ไปด้วย ร้องได้แค่ปู้ง โดยคนที่เข้าใจภาษาของพลูคือนัตสึกับแฮปปี้ และเทพแห่งดวงดาว
- คาเอมล์ (Caelum) - เทพแห่งหมู่ดาวสิ่ว มีรูปร่างหน้าตาคล้ายหุ่นยนต์ สามารถเปลี่ยนรูปร่างเป็นปืนไว้ใช้ยิงหรือเป็นดาบก็ได้ จัดว่าเป็นอาวุธร้ายกาจในการต่อสู้
- พิกซิส (Pyxis) - เทพแห่งหมู่ดาวเข็มทิศ มีรูปร่างคล้ายๆ นกผสมกับเข็มทิศ มีความสามารถในการค้นหาทิศทางได้ทุกทิศ (แม้ว่าสถานที่นั้นจะมีผลกระทบต่อเข็มทิศปกติไม่สามารถใช้ได้ก็ตาม) เคยถูกเอลซ่าพูดว่ามีเข็มทิศ จนถูกแทงใจดำครั้งหนึ่งตอนรอบคัดเลือกงานประลองเวทมนตร์ที่เขาวงกตลอยฟ้า จนกลัวเอลซ่าไปโดยปริยาย (มาจากตอน 256)
- โพลาริส (Polaris) - เทพแห่งหมู่ดาวลูกหมี ทำพันธสัญญากับยูกิโนะ อาเกรียแห่งกิลด์เซเบอร์ทูธ
- เดเน็ป (Deneb) - เทพแห่งหมู่ดาวหงษ์ ทำพันธสัญญากับยูกิโนะ อาเกรียแห่งกิลด์เซเบอร์ทูธ
- สตาร์เดรส
- เป็นเวทที่ใส่กูญแจจักราศีเพื่อสร้างชุดให้ตนเองทำให้เจ้าของกุญแจมีพลังของเทพแห่งดวงดาวใช้ต่อสู้กับร่วมต่อสู้กับเทพแห่งดวงดาวได้
- อควอเรียส (Aquarius) - ราศีกุมภ์จากกลุ่มดาวคนถือคนโทน้ำ เป็นร่างที่ใส่ชุดว่ายน้ำ กับใช้เวทน้ำได้
- เลโอ (Leo) - ราศีสิงห์จากกลุ่มดาวสิงโต เป็นร่างที่ใดรสสีดำในงานเต้นรำ กับใช้เวทแสง
- เวอโก้ (Virgo) - ราศีกันย์จากกลุ่มดาวหญิงสาว เป็นร่างที่ชุดเมดแต่ออกโป๊หน่อย กับใช้เวทดินกับขุดดินได้
- ทอรัส (Taurus) - ราศีพฤษภจากกลุ่มดาววัว เป็นร่างที่ใส่เหมือนชุดคาวเกิร์ลสาวแนววัว เน้นกำลัง กับใช้เชือกที่เป็นหางวัวเป็นอาวุธแบบแส้กับบ่วงบาศ
- ซาจิทาเรียส (Sagittarius) - ราศีธนูจากลุ่มดาวคนยิงธนู เป็นร่างใส่ชุดนักยิงธนูแบบแค่ยิงมั่วๆก็ยังโดน
- แอเรียส (Aries) - ราศีเมษจากกลุ่มดาวแกะ เป็นชุดแกะลายสลับกันของชมพูกับขาว ส่วนถุงเท้าจะเป็นสลับลายขาวดำ กับใช้เวทสร้างปุยเมฆนุ่มออกมาได้
- เจมินี่ (Gemini) - ราศีเมถุนจากกลุ่มดาวเด็กแฝดเจมี่กับมินี่ เป็นใส่หมวกkokoshnik กับชุดเป็นชุดรัดรูป กับสีสลับกันไปมาทั้งชุดกับหมวก
- Heart Kreuz
- แบรนด์เสื้อผ้าของผู้หญิงในเรื่องแฟรี่เทล ไม่เคยทำอาวุธ โดยเอลซ่าเคยไปบริษัทกับขอร้องให้ช่วยทำเกราะให้เอลซ่าใช้สู้จนบริษัทที่ผลิตแต่เสื้อผ้าหันมาผลิตเกราะอาวุธให้ใช้เป็นแฟชั่นอาวุธ แค่เฉพาะเอลซ่า
- ชุดเกราะของเอลซ่า
- ชุดเกราะที่เอลซ่าใช้ในการต่อสู้
- Heart Kreuz Armor - เป็นชุดเกราะปกติที่เอลซ่าสวมเป็นประจำ และเป็นชื่อแบรนด์ของชุดเกราะด้วย สามารถสับเปลี่ยนศาสตรา เปลี่ยนอาวุธอย่างรวดเร็ว ถ้าเกราะนี้ถูกทำลายจะเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดา อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ ดาบสั้น ความจริงแล้ว Heart Kreuz ไม่เคยทำชุดเกราะแต่เอลซ่ากลับพูดว่า "ทำให้ฉันหน่อยไม่ได้หรือไง"
- เกราะกงล้อสวรรค์ (Heaven's Wheel Armor) - เป็นชุดเกราะที่มีปีกเหล็ก 4 ปีกติดที่หลัง มีพลังเวทที่สามารถเสกดาบได้เป็นจำนวนมาก ใช้สู้กับคู่ต่อสู้หลายๆ คน เอลซ่าสามารถบินได้ในระยะสั้นๆ หากสวมชุดเกราะนี้ อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ ดาบเวทคู่
- เกราะปีกดำ (Black Wing Armor) - เป็นชุดเกราะมีปีกค้างคาวติดที่หลัง คุณสมบัติพิเศษคือเพิ่มพลังโจมตี เอลซ่าสามารถบินได้ในระยะสั้นๆ หากสวมชุดเกราะนี้ อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ ดาบสั้นแบบเกราะทมิฬ
- เกราะเทพอัคนี (Flame Emperor's Armor) - เป็นชุดเกราะที่มีรูปลักษณ์คล้ายๆ มังกรสีแดงดำ คุณสมบัติพิเศษคือสามารถกันการโจมตีประเภทไฟได้ 50 % และสามารถใช้ไฟโจมตีได้เช่นกัน อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ ดาบเพลิง
- เกราะยักษ์ (The Giant's Armor) - เป็นชุดเกราะสีทองสไตล์ barbaric (คนชนชาติป่าเถื่อน) สามารถเพิ่มความแรงในการขว้างปาสิ่งของได้ อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ หอกพิฆาตมาร
- เกราะเพชร (Adamantine Armor) - เป็นชุดเกราะรูปลักษณ์คล้ายหุ่นยนต์ เป็นชุดเกราะที่มีความแข็งแกร่งทนทานสูงที่สุดของเอลซ่า ถึงขนาดสามารถใช้ต้านทานเวทมนตร์ที่มีอานุภาพสูงได้ ทำมาจากเพชร อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ โล่คู่ (หากประสานกันแล้วจะเป็นการร่ายเวทโล่เวทมนตร์ขนาดใหญ่ออกมาได้)
- เกราะโลกันตร์ (Purgatory Armor) - เป็นหนึ่งในชุดเกราะที่ประสิทธิภาพสูงสุดของเอลซ่า รูปลักษณ์คล้ายนักรบปีศาจสีดำ พลังและความสามารถที่แท้จริงของชุดเกราะนี้ยังไม่ได้เปิดเผยออกมา แต่คร่าวๆ คือเน้นไปทางทำลายล้าง อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ กระบองหนามเหล็กยักษ์ (เอลซ่าเคยกล่าวถึงอานุภาพชุดเกราะนี้ไว้ว่า "ไม่เคยมีศัตรูคนไหนรอดชีวิต เมื่อได้เห็นชุดเกราะนี้" อ้างอิงจากอะนิเมะตอนที่ 38)
- เกราะพุ่งทะยาน (Flight Armor) - เป็นชุดเกราะที่ออกสไตล์นักรบเสือชีตาร์ คุณสมบัติพิเศษคือสามารถเพิ่มความเร็วในการต่อสู้ ทั้งการเคลื่อนไหวและการโจมตี อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ ดาบยาวคู่
- เกราะตระกูลเหยา (Robe of Yūen) - เป็นชุดเกราะที่มีลักษณะสไตล์ซามูไรสีม่วง คุณสมบัติพิเศษคือเป็นชุดเกราะที่สามารถยืดหยุ่นได้ (สามารถกลับรูปร่างเดิมได้ แม้จะถูกเวทมนตร์ประเภทควบคุมสิ่งของดัดรูปร่างไปจากเดิมก็ตาม) อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้คือ ทวนยาว เอาชนะมิดไนต์จากโอราเชี่ยน เซสได้โดยใช้เกราะนี้
- เกราะประกายพรึก (Morning Star Armor) - เป็นชุดเกราะสีขาว ติดผ้าส้มติดปีกที่ไหล่ 2 ข้าง สามารถโจมตีด้วยไฟฟ้าจากดาบสองข้าง อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้ คือ ดาบสองมือ
- เกราะแห่งภูต (Armadura Fairy) - เป็นชุดเกราะที่ประสิทธิภาพสูงสุดของเอลซ่า เป็นเกราะที่แบกรับนามของแฟรี่เทล และเป็นเกราะที่แฟรี่เทลภาคภูมิใจ ใช้สู้ในครั้งแรกตอนศึกที่เอโดราส เป็นเกราะสุดท้ายที่ปะทะกับเอลซ่า ไนท์วอคเกอร์ อาวุธที่ใช้คู่กับเกราะนี้ คือ ดาบแห่งภูต
- เกราะจ้าววารี (Sea Empress Armor) - เป็นชุดเกราะรูปลักษณ์สไตล์สัตว์ทะเล คุณสมบัติพิเศษคือต้านทานการโจมตีของน้ำได้ทุกรูปแบบ แม้แต่น้ำของจูเบียก็ทำอะไรไม่ได้เลยซักนิดเดียว และสามารถใช้น้ำโจมตีได้ด้วย ใช้เอาชนะจูเบียกับลิซาน่าในตอนสอบเลื่อนเป็นระดับ S อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้ คือ ดาบคริสตัล
- เกราะเทพสายฟ้า (Lightning Empress Armor) - เป็นชุดเกราะสไตล์ไปทางเทพีกรีกโบราณ คุณสมบัติพิเศษคือต้านทานสายฟ้าในระดับของลัคซัสได้ สามารถโจมตีและป้องกันด้วยสายฟ้าได้ด้วย ถักเปียที่ผมด้านหลัง อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้ คือ หอกสายฟ้า
- เกราะอำลาแฟรี่เทล (Farewell Fairy Tail Armor) - เป็นชุดเกราะสไตล์นักรบศักดิ์สิทธิ์เกราะหนัก เป็นชุดเกราะเดียวที่เอลซ่าไม่ได้ใช้สำหรับต่อสู้ เอลซ่าจะใช้ต่อเมื่อทำพิธีอำลาให้กับสมาชิกในกิลด์แฟรี่เทลคนไหนก็ตามที่จำต้องออกจากกิลด์ไป อาวุธที่ใช้คู่กับชุดเกราะนี้ คือ ธงตราประจำกิลด์แฟรี่เทล ไม่ใช่เกราะที่ใช้สู้แต่มีใช้ทำพิธีอำลาสมาชิกแฟรี่เทลเท่านั้น
- เกราะล่อตาล่อใจ (Seduction Armor) - เป็นชุดเกราะมีเกราะแค่ที่ส่วนแขน ลักษณะชุดเหมือนใส่ชุดว่ายน้ำ 2 พี แล้วมีถุงน่อง มีอาวุธเป็นดาบ 1 เล่ม ใช้ยั่วยวนศัตรู
- เกราะเทพนางฟ้า (Nakagami Armor) - เป็นเกราะที่หรูหราประกอบด้วยขลิบทองที่เปิดส่วนใหญ่อยู่ตรงกลางเผยให้เห็นมากของหน้าอกของเสื้อคลุมสีฟ้าสั้น เสื้อคลุมที่มีการ เชื่อมโยงกัน ที่เอวด้วยเชือกสีม่วงง่ายจัดขึ้นร่วมกัน โดยลูกปัดทองเสื้อคลุมมีตัดหลายชั้นที่หรูหราเธอสวมถุงมือสีฟ้าขนาดใหญ่ที่มีจดจ้องทองวูบวาบ ออกมาในปลายถุงมือมีริบบิ้นสีม่วงผูกรอบข้อมือและจะประดับในรูปแบบที่เรียบง่ายของจุดทองมีพลังสามารถฟันเวทมนตร์ได้ จำนวนเวทที่ใช้มหาศาลมาก ในสิบปีไม่มีใครสามารถสวมใส่ได้ ผู้ที่สวมสามารถแหกกฏจอมเวทกับนักดาบ เกราะมาพร้อมกับง้าวขนาดใหญ่ที่มียามมือทองวงกลมในศูนย์ใบมีดขนาดใหญ่มากด้วยวงกลมกึ่ง ขนาดเล็กในด้านอื่น ๆ ผ้าสีม่วงผูกด้านล่างขวาใบมีด
- เกราะเจาะทะลวง (Piercing Armor) - เป็นเกราะที่เหมือนเกราะอัศวิน มีอาวุธคือหอกด้ามใหญ่ที่มีน้ำหนัก เน้นในการใช้หอกแทงศัตรูเป็นหลัก
- เกราะปีกดาบ (Wingblade Armor) - เป็นเกราะที่เป็นเดรสตรงตัวคนใส่ แต่จะมีดาบติดเป็นปีก มีดาบ 4 คู่ สามารถควบคุมให้ดาบลอยไปฟันศัตรูได้ กับหยิบมาใช้ฟันก็ได้
- เกราะเทพแห่งสายลม (Nakagami Armor) - เป็นเกราะที่เป็นแนวเทพแห่งสายลมตามชื่อ มีอาวุธดาบสามลม โดยเกราะนี้จะเน้นความเร็วเป็นหลัก
- เอลซ่าตอนถอดเกราะ - เป็นตอนที่เอลซ่าสู้โดยไม่ใช้เกราะ เป็นตอนเอลซ่าเอาจริง สภาพอนเอลซ่าใช้เป็นเหมือนไพ่ตายใบสุดท้ายของเอลซ่า ลักษณะการแต่งตัวเป็นแบบ ผูกหางม้า มีผ้ารัดหน้าอก กับใส่กางเกงสีอดงที่ขากางเกงเป็นลายไฟ โดยมีอาวุธเป็นดาบคู่ โดยจะสู้แบบระยะประชิดโดยตัวดาบจะอาบพลังเวทมนตร์เพื่อเพิ่มความคมในการฟันเป็นพลัง
- ปีศาจแห่งเกาะการูน่า
- เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีร่างเป็นปีศาจกับมีปีก ซึ่งมีความสามารถจำแลงกายเป็นมนุษย์ได้ แต่ถ้าโดนม่านของมูนดริป จะเกิดการสับสนตัวเองว่าเป็นมนุษย์ที่โดนสาป แต่จริงๆแล้วเป็นปีศาจที่ถูกทำให้เกิดการสับสนทางความทรงจำเพราะมูนดริป
- มูนดริป
- เป็นเวทมนตร์ที่ทำการประกอบพิธีที่ทำตอนมีพระจันทร์เต็มดวง จนเกิดมีแสงสีม่วงออกมา สามารถละลายเวทน้ำแข็งที่ไม่สามารถละลายได้ มูนดริปนั้นเป็นรูปแบบทั้งแสงและของเหลว แต่จะมีผลข้างเคียงต่อพวกปีศาจที่อาศัยบนเกาะการูน่าคือ พวกปีศาจจะเกิดการสับสนทางความทรงจำคิดว่าตัวเองเป็นมนุย์ กับเลี่ยนร่างเมื่โดนแสงจากมูนดริป
- Super Mage Giant Phantom MK II
- อาวุธกลไกพลังทำลายล้างสูงของแฟนธ่อม ลอร์ด ซึ่งแปลงมาจากตัวอาคารของกิลด์แฟนธ่อมเอง
- มหาเวททั้ง 3 แห่งแฟรี่เทล
- เวทมนตร์ของแฟรี่เทลที่เป็นเวทอันยึ่งใหญ่ที่มีอยู่ด้วยกัน 3 อย่าง ได้แก่
- แฟรี่ลอว์ - เป็นเวทแห่งการพิพากษาที่มีพลังทำลายล้างแผ่รัศมีไปได้ทั่วเมือง แต่ว่ามันจะทำลายแต่พวกศัตรูเท่านั้น แต่ถ้าเป็นพวกมิตรเดียวกันจะไม่เป็นไร
- แฟรี่กลิตเตอร์ - เป็นเวทโจมตีที่มีพลังเทียบเท่ากับแฟรี่ลอว์ โดยใครก็ตามที่ใช้แฟรี่กลิตเตอร์จะมีสัญลักษณ์โผล่ออกมาที่แขน พลังที่ไม่แบ่งแยกมิตรกับศัตรู
- แฟรี่สเฟียร์ - เป็นเวทป้องกันขั้นสูงสุดของแฟรี่เทลที่สามรถป้องกันภัยกับสิ่งชั่วร้ายได้จากทุกสิ่ง แต่ว่าเมื่อใช้แล้ว จะอยู่ในสภาพแช่แข็งเป็นเวลาเกือบ 7 ปี ถึงจะคลายได้
- ลูเมน ฮิสทอร์
- ความลับของแฟรี่เทล ซึ่งอยู่ภายในทางลับในห้องใต้ดินของตึกแฟรี่เทลหลังเก่าเอาไว้ เป็นสิ่งที่มีเพียงมาสเตอร์กิลด์ของแฟรี่เทลเท่านั้นที่จะได้รู้ เป็นแสงสว่างของแฟรี่เทล ซึ่งเมื่อมาสเตอร์กิลด์ของแฟรี่เทลให้มาสเตอร์กิลด์รุ่นถัดไปรับช่วงต่อดูแลกับเก็บเป็นความลับ เป็นเวทที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่ามหาเวททั้ง 3 แห่งแฟรี่เทล แท้จริงในอดีตตอนมาสเตอร์รุ่นที่ 1 ประจำการอยู่นั้น ช่วงก่อนวันที่มาคาลอฟเกิดเซเรฟได้เตือนถึงคำสาปอีกอย่างของลอว์ จนเมวิสกลัวกลับกิลด์ไปพอมาคาลอฟคำสาปในตัวเมวิสก็ฆ่าแม่ของมาคาลอฟไป จนเมวิสก็กลัวออกจากกิลด์ไป เพรชซ์ก็ทำหน้าที่มาสเตอร์รุ่นที่ 2 ส่วนเมวิสใช้ชัวิตอยู่ในป่ากับเป็นปีไม่กินอะไรกับฆ่าตัวตายก็ไร้ผล เซเรฟมาหากับบอกว่าหมดหวัง แต่เมวิสก็ให้ความหวังแต่คำสาปในตัวเซเรฟรุนแรงกว่า เมวิสจึงเสียชีวิต แล้วเซเรฟนำศพไปให้เพรชซ์ที่แฟรี่เทลกับบอกถึงเกิดอะไรขึ้น เพรชซ์ที่เป็นมาสเตอร์ก็พาไปที่ห้องลับกับศึกษาวิจัยหาทางคืนชีพไปหลายปีกับลุ่มหลงในมนต์ดำ ยูรี่ที่ไม่รู้เรื่องก็เสียชีวิตในภารกิจ พอผ่านไป 30 กว่าปี วัลร็อคเห็นว่าเพรชซ์เปลี่ยนไปจึงออกจากกิลด์ ทางเพรชซ์พอรู้ว่าได้สร้างสิ่งที่ยิ่งกว่าขึ้นมาคือ แฟรี่ฮาร์ต เกิดแล้วคือร่างของมาสเตอร์เมวิส ที่หลับโดยถูกแช่แข็งเพื่อคงสภาพเอาไว้ เป็นเวทมนตร์ที่ไร้ขีดจำกัดที่มีพลังมหาศาลมากอย่างไม่มีที่สิ้นสุด มีความเป็นไปได้ว่าพลังเวทไร้ที่สิ้นสุดนั้นสามารถฆ่าเซเรฟลงได้ หรือสามารถใช้เป็นพลังงานทำการยิงเอเทเรี่ยนที่ไม่สิ้นสุดได้
- 10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่
- เป็นตำแหน่งที่สภาจอมเวทได้แต่งตั้งให้จอมเวทที่เก่งกาจที่สุดในทวีป เป็นการคัดสรรจากสภาจอมเวททั้งนั้น มี 10 คน แต่ไม่ใช่ว่า 10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่จะมีฝีมือเทียบเท่ากัน มีพวกที่ไม่ใช่มนุษย์ 4 คน ซึ่งผู้ที่เป็น 10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ในเรื่องโดยเป็นสมาชิกหรือกิลด์มาสเตอร์จากแต่ละกิลด์ หรือจอมเวทที่เกษียณจากกิลด์ ไม่ก็สมาชิกของสภาจอม หรือจอมเวทที่แข็งแกร่งที่ออกเดินทาง โดยที่แต่ละคนไม่ใช่สมาชิกของกิลด์แห่งความมืด โดยทุกคนจะมีสิ่งมีคือจะมีสัญลักษณ์ของ 10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นเสื้อผ้าหรือ ของติดตัวที่เป็นหลักฐาน หลังจากสภาจอมเวทล่มสลายไปเพราะทาทาร์รอส 10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่จึงทำหน้าที่รับผิดชอบก่อตั้งและตั้งตนเป็นสมาชิกสภาจอมเวทแทน โดย 10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ในเรื่องได้แก่
- มาคาลอฟ เดรเยอร์ - กิลด์มาสเตอร์แฟรี่เทล รุ่นที่ 3 และ 6 ปัจจุบันหายสาปสูญ แต่เพราะทีมนัตสึกับทีม B พากลับมาเป็นมาสเตอร์รุ่นที่ 8
- โจเซ่ โพล่า - อดีตกิลด์มาสเตอรแฟนธ่อม ลอร์ด (ปัจจุบันโดนปลดออกจากตำแหน่ง 10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่)
- ซิกเรน (เจราล เฟอร์นันเดส) - อดีตสมาชิกของสภาจอมเวทย์ (ปัจจุบันโดนปลดออกจากตำแหน่ง10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่)
- จูร่า เนคิส์ - สมาชิกในกิลด์ลาเมียสเกล ปัจจุบันไต่เต้าจนอยู่อันดับ 5 ของ 10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่
- วัลร็อต ซีเคน - อดีตสมาชิก 1 ในผู้ก่อตั้งกิลด์แฟรี่เทลรุ่นแรก ปัจจุบันมีร่างกายเป็นต้นไม้ เป็นเทพทั้ง 4 แห่งของอิชกัล อยู่อันดับ 4 ของ 10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่
- วูลฟ์ไฮม์ - เป็นเทพทั้ง 4 แห่งของอิชกัล อยู่อันดับ 3 ของ 10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่
- แดรคิวลอส ไฮเบเรี่ยน - เป็นเทพทั้ง 4 แห่งของอิชกัล อยู่อันดับ 2 ของ 10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นประธานสภาจอมเวทคนใหม่
- ก็อด เซเรน่า - เป็นเทพทั้ง 4 แห่งของอิชกัล อยู่อันดับ 1 ของ 10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในทวีป ขนาดเทพทั้ง 4 ของอิชกัลเพียง 3 คน กับจูร่าร่วมมือกันสู้ต่อกรกับก็อด เซเรน่า แต่ผลออกมาก็อด เซเรน่าชนะอย่างง่ายดาย แต่ว่าหลังจากจบอวตารไปไม่นาน ก็ทรยศออกมาเข้าร่วมกับอาณาจักรอัลวาเรซ ปัจจุบันเสียชีวิตเพราะถูกแอคโนโลเดียฆ่าอย่างง่ายดาย
- เทพทั้ง 4 แห่งของอิชกัล
- สมาชิกของ 10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งหมด 4 คน โดย ทั้ง 4 คนไม่ใช่มนุษย์แต่เคยเป็นมนุษย์มาก่อนบางคน
- จูปิเตอร์
- เป็นปืนใหญ่พลังเวทชนิดหนึ่ง มีหลักการทำงานเหมือนกันกับเอเทเรี่ยน แต่ต่างกันตรงที่ไม่ได้ใช้พลังเวทหลาย ๆ ธาตุมาบีบอัดรวมกันใส่แท่นหิน แต่รวมไว้ในที่ลาคริม่าขนาดใหญ่ในตัวกลไกของปืนใหญ่ มีอานุภาพสูง ถือเป็นอาวุธที่ใช้ในสงคราม มักติดตั้งในตัวกิลด์ ยานพาหนะ หรือสถานที่ต่าง ๆ เช่น เรือเหาะของกริมมัวร์ ฮาร์ต หรืออาคารกิลด์แฟนธ่อม ลอร์ด
- มังกร
- สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในเอิร์ธแลนด์ ทุกตัวสามารถใช้เวทมนตร์ได้อย่างชำนาญ เวทมนตร์ไม่สามารถจัดการกับมังกรได้ นอกจากมังกรด้วยกันหรือ ดราก้อนสเลเยอร์ เท่านั้น แต่ว่า 400 ปีก่อนมังกรได้ครองโลกกินมนุษย์เป็นอาหาร แต่มีมังกรคิดว่าควรคิดอยู่ร่วมกับมนุษย์ จึงเกิดสงครามพวกมังกรที่คิดอยู่ร่วมกับมนุษย์ และมังกรที่คิดว่ามนุษย์เป็นอาหาร พวกมังกรที่คิดอยู่ร่วมกับพวกมนุษย์สู้ในสงครามไม่ไหวจึงคิดสอนเวทมังกรกับมนุษย์ เพื่อนำมาร่วมสงคราม ซึ่งเป็นต้นกำเนิดดราก้อนสเลเยอร์ แต่พลังของดราก้อนสเลเยอร์คนหนึ่งมีมากเกินไป ชายคนนั้นได้ฆ่ามังกรที่เป็นพวกเดียวกันกับศัตรู ชายคนนั้นเริ่มวิวัฒนาการจนกลายเป็นมังกรที่มีชื่อแอคโนโลเกีย และได้กลายเป็นราชาแห่งมังกรทั้งหมดจึงสูญพันธุ์ในเหตุการณ์นั้น มังกรในเรื่องนี้มี ได้แก่
- อิกนีล ราชามังกรไฟ เพศผู้ เป็นมังกรที่เลี้ยงดูนัตสึและสอนเวทย์ปราบมังกรไฟให้แก่นัตสึ หายตัวไปในวันที่ 7 เดือน7 ปี777 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เมทัลลิคาน่าและแกรนดีเน่ทิ้งกาซิลและเวนดี้ไป แท้จริงอยู่ในตัวนัตสึตลอด
- เมทัลลิคาน่า มังกรเหล็ก เพศผู้ เป็นมังกรที่เลี้ยงดูกาซิลและสอนเวทย์ปราบมังกรเหล็กให้กาซิล หายตัวไปในวันที่ 7 เดือน7 ปี777ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่อิกนีลและแกรนดีเน่หายตัวไปเช่นกัน แท้จริงอยู่ในตัวนัตสึตลอด
- แกรนดีเน่ มังกรนภา เพศเมีย เป็นมังกรที่เลี้ยงดูเวนดี้แต่ไม่ได้สอนเวทย์ปราบมังกรนภาให้เวนดี้แต่สอนเวทย์สนับสนุนให้มากกว่าหายตัวไปในวันที่ 7 เดือน7 ปี777 แท้จริงอยู่ในตัวนัตสึตลอด
- สกายอดัม มังกรเงา เพศผู้ เป็นมังกรที่เลี้ยงดูโร้คและสอนเวทย์ปราบมังกรเงาให้โร็ค หายตัวไปในวันที่ 7 เดือน7 ปี777ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่อิกนีลและแกรนดีเน่และเมทัลลิคาน่าหายตัวไปเช่นกันแท้จริงอยู่ในตัวนัตสึตลอด ที่จริงโร้คไม่ได้เป็นดราดราก้อนสเลเยอร์ รุ่นที่3 แต่เป็นรุ่นที่1 สกายอดัม ไม่ได้ถูกฆ่า เหมือน ไวส์โลเกีย แต่โร็คก็เป็นเหมือนนัตสึและดราก้อนสเลเยอร์ รุ่นที่1 สกายอดัมได้หายตัวไป เมื่อวันที่ 7 เดือน7 ปี777 ไม่ได้ถูกโร้คฆ่า แต่หายไปในตัวโร๊ค
- แอคโนโลเกีย ราชามังกร (อดีตดราก้อนสเลเยอร์) แอคโนโลเกียเป็นมังกรที่มีพลังมหาศาลและเป็นหัวหน้าของเหล่ามังกร อดีตเคยเป็นดราก้อนสเลเยอร์ที่แข็งแกร่งที่มังกรที่คิดจะอยู่ร่วมกับมนุษย์สร้างขึ้นมา แต่เกิดบ้าคลั่งจึงไล่ฆ่ามังกรทั้งพวกเดียวกันและฝ่ายตรงข้ามจนกลายร่างเป็นมังกร เป็นฝีมือของเซเรฟที่หลอกแอคโนโลเกีย แต่ความจริงเป็นอาบเลือดมังกรใช้เวทปราบมังกรมากเกินไปทำให้กลายร่างไปเป็นมังกรตัวสีดำที่มีปีกลวดลายสีฟ้าที่รูปร่างแตกต่างจากทังกรทุกตัว ปรากฏตัวต่อหน้าแฟรี่เทลครั้งแรกที่เกาะเทนโรวจิม่าเป็นตัวการที่ทำให้เกาะหายไปถึง 7 ปี โดยแอคโนโลเกียจะบินไปที่ไหนก็ตามมีการต่อสู้เหตุของสงครามที่รุนแรงและจะบินไปหยุดที่สถานที่นั้น แล้วก็จะไปทำลายสถานที่นั้นโดยไม่สนว่าใครเป็นมิตรหรือศัตรูให้หายไปทั้งหมดแล้วบินจากไป โดยบินไปทั่วโลก แอคโนโลเกีย เป็นฝันร้ายของโลกและมังกร ซึ่งแอคโนโลเกียก็หวาดกลัว E.N.D. ในตอนที่ทาร์ทารอสทำสงครามกับแฟรี่เทล แอคโนโลเกียก็มา แต่อิกนีลมาขวางจึงเกิดการสู้กันจนแอคโนโลเกียเสียแขนกับฆ่าอิกนีลสำเร็จแต่หนีไปอีกครั้ง
- ไวส์โลเกีย มังกรขาว เพศผู้ มังกรที่เคยเลี้ยงดูสติงและสอนเวทย์ปราบมังกรขาวให้แก่สติงและได้ขอให้สติงฆ่าตนเพื่อให้สติงอาบเลือดมังกรเพื่อกลายเป็นดราก้อนสเลเยอร์ที่แท้จริง แต่ความจริงใช้เวทแปลงความทรงจำสติง แล้วอยู่ในตัวสติง
- ซิลโคนิส(วิญญาณ) มังกรหยก เพศผู้ มังกรตัวแรกที่เวนดี้ได้ติดต่อดวงวิญญาณด้วย โดยซิลโคนิสเล่าถึงเรื่องมังกรในอดีต
- มังกรที่ออกมาจากอุปราคา
- เป็นมังกรเมื่อ 400 ปีก่อน ที่ออกมาจากอุปราคาข้ามกาลเวลามาในปี x791 ทั้งหมด 7 ตัว ถูกโร็คใช้เวทควบคุมมังกร
- ซิลโคนิส มังกรหยก เพศผู้ หนึ่งในมังกรที่ออกมาจากประตูอุปราคาในครั้งนั้นได้ต่อสู้กับเวนดี้ รู้สึกว่าฉายาของเขาเจ้าหญิงฮิซุยจะเป็นคนตั้งให้
- มาเธอร์กรี เพศผู้ หนึ่งในมังกรที่ออกมาจากประตูอุปราคาและเป็นตัวที่โร๊คขี่อยู่และมีพลังในการสร้างมังกรตัวเล็กจำนวนมากด้วยการปล่อยไข่ลงมายังพื้นอีกด้วยนอกจากนี้มาเธอร์กรียังมีร่างกายเป็นเพชรอีกด้วย
- แอทลาส เฟรม มังกรเพลิง เพศผู้ หนึ่งในมังกรที่ออกมาจากประตูอุปราคามีร่างกายเป็นเพลิงทั้งตัวและเป็นเพื่อนสนิทกับอิกนีลอีกด้วย เป็นมังกรตัวเดียวที่ช่วยเหลือนัตสึเมื่อรู้ว่านัตสึเป็นลูกของอิกนีล ความจริง แอทลาส เฟรม เสียชีวิตไปเพราะบาดเจ็บจากเทศกาลราชามังกรเมื่อ 400 ปีที่แล้ว หลังจากจบงานเทศกาลไปไม่นานได้ไปสร้างหมู่บ้านพระอาทิตย์ โดยตนได้กลายเป็นเพลิง ของที่พวกยักษ์ที่มาอาศัยในหมู่บ้านที่ถูกแอทลาส เฟรม เรียกว่าเพลิงนิรันดร์ แล้วก็เสียชีวิตไป
- รีไวล์ เพศผู้ หนึ่งในมังกรที่ออกมาจากประตูอุปราคาเป็นมังกรที่ต่อสู้กับสติง
- ซิสเซอร์รันเนอร์ หนึ่งในมังกรที่ออกมาจากประตูอุปราคา ที่มีความเร็ว ได้ต่อสู้กับโร๊คแต่โดนสั่งห้ามไม่ให้ฆ่าโร๊คเพราะไม่งั้นจะไม่มีตัวโร๊คในอนาคต
- มังกรหิน เพศผู้ หนึ่งในมังกรที่ออกมาจากประตูอุปราคา เป็นมังกรที่ไร้จมูก ปรากฏตัวต่อหน้าบลูเพกาซัสแล้วต่อสู้กับคอบร้า
- มังกรดำ หนึ่งในมังกรที่ออกมาจากประตูอุปราคา เป็นมังกรที่สู้กับกาซิล
- วันที่ 7 เดือน 7
- เป็นวันที่มังกรที่เลี้ยงดูเหล่าดราก้อนสเลเยอร์หายตัวไปโดยไม่มีใครรู้เลยว่าไปอยู่ที่ไหน ซึ่งที่รู้มีแต่มังกรด้วยกันที่มีชีวิตรอดมาจากเทศกาลราชามังกร ซึ่งเป็นวันจบสงครามของเทศกาลราชามังกร กับอุปราคาทำงานส่งมังกรกับดราก้อนสเลเยอร์ข้ามกาลเวลาไปอนาคตในอีก 400 ปี ข้างหน้ากับเปิดนำมาสู่อนาคต
- ความจริงที่มังกรหายตัวไป
- แท้จริงมังกรที่เลี้ยงดูเหล่าดราก้อนสเลเยอร์ที่คิดว่าหายไปในวันที่ 7 เดือน 7 ปี X777 ความจริงไม่ได้หายตัวไปแต่ว่าอยู่ในตัวของดราก้อนสเลเยอร์นั้นเพราะดราก้อนสเลเยอร์ที่มังกรสร้างขึ้นมานั้นมีพลังมากเกินไป จึงต้องอยู่ใในตัวดราก้อนสเลเยอร์เพราะเวทผนึกเพื่อผลิตภูมิต้านทานในตัวดราก้อนสเลเยอร์เพื่อที่จะสะกดเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ดราก้อนสเลเยอร์กลายเป็นมังกรเหมือนแอคโนโลเกีย ส่วนอีกสาเหตุคือแต่เดิมมังกรนั้นบาดเจ็บปางตายในเหตุการณ์ไปตั้งแต่เมื่อ 400 ปีที่แล้ว โดยวิญญาณถูกแยกออกจากร่าง โดยฝีมือของแอคโนโลเกีย ซึ่งต้องอยู่ในตัวดราก้อนสเลเยอร์เพื่อยืดชีวิตกับสะสมพลังเวท เมื่อออกจากจากดราก้อนดราก้อนสเลเยอร์จะกลับเข้าไปไม่ได้อีก เพื่อจะได้กำจัดแอคโนโลเกีย แต่สุดท้ายก็ฝากความหวังให้มนุษย์ เพราะในภาคทาร์ทารอสนั้น มังกรที่เลี้ยงดราก้อนสเลเยอร์ทั้งหมด ยกเว้นอิกนีลใช้พลังทำลายเฟธอาวุธสุดท้ายของสภาจอมเวท เป็นระเบิด สามพันจุดอยู่ทั่วทวีป ส่วนอิกนีลไปสู้กับแอคโนโลเกียโดยลำพังแล้วแพ้ เพราะสะสมพลังไว้ไม่มากพอ แล้วหลังจากนั้นก็จะเสียชีวิต ส่วนเหล่าดราก้อนสเลเยอร์นั้นหลังจากที่มังกรออกจากร่างไป ต่อให้เวทปราบมังกรมากเท่าไหร่ก็ไม่มีทางกลายเป็นมังกรได้
- ดราก้อนสเลเยอร์
- การที่มังกรสอนเวทปราบมังกรให้กับมนุษย์ จนมนุษย์ใช้เวทปราบมังกรได้ กับไม่สามารถกินเวทของก็อดสเลเยอร์ได้นอกจากว่าจะทำให้ตัวเองนั้นพลังเวทในตัวหมดก่อนแล้วค่อยกินก็ไม่เป็นไรกับใช้ได้แต่แค่ชั่วคราว
- ดราก้อนสเลเยอร์ รุ่น 1
- เป็นจอมเวทที่ถูกมังกรเลี้ยงดูและถ่ายทอดเวทมนตร์ให้ สามารถแปรสภาพร่างกายตนเองให้มีลักษณะเหมือนกับร่างกายของมังกร รวมทั้งสามารถใช้เวทมนตร์ปราบมังกรได้ หรือเวทของมังกร และยังกินวัตถุดิบธาตุของตนเองได้เหมือนเป็นอาหาร โดยหลักถ้ากินพลังเวทบริสุทธิ์ก็ทำได้ กับพลังเวทของมังกรประจำธาตุเป็นต้น และเพื่อฟื้นฟูพลังเวทและรักษาร่างกาย แต่ไม่สามารถที่กินเวทมนตร์ที่ตนสร้างขึ้นมาเองได้ ดราก้อนสเลเยอร์มีอาการเมาพาหนะพวกที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตซึ่งเป็นอาการของคนที่จะเป็นดราก้อนสเลเยอร์ที่แท้จริง แต่ถ้าดราก้อนสเลเยอร์ใช้เวทมนตร์ปราบมังกรที่ได้การสอนจากมังกรโดยตรง มากเกินไปจะทำให้ร่างกายเริ่มกลายเป็นมังกรจนสูญเสียจิตใจไปในที่สุด ซึ่งผู้ที่เป็นดราก้อนสเลเยอร์ในเรื่อง ได้แก่
- นัตสึ ดรากูนีล - ดราก้อนสเลเยอร์อัคคี - ผู้สอน ราชามังกรไฟ อิกนีล
- กาซิล เรดฟ็อกซ์ - ดราก้อนสเลเยอร์เหล็ก - ผู้สอน มังกรเหล็ก เมทัลลิคาน่า
- เวนดี้ มาร์เวล - ดราก้อนสเลเยอร์นภา - ผู้สอน มังกรนภา แกรนดีเน่
- แอคโนโลเกีย - ดราก้อนสเลเยอร์ ปัจจุบันเป็นราชามังกร - ผู้สอน มังกร
- ดราก้อนสเลเยอร์ รุ่น 2
- เป็นจอมเวทที่ฝังลาคริม่า ซึ่งเป็นผลึกชนิดหนึ่งในโลกเวทมนตร์ สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง สำหรับผู้ที่มีลาคริม่าฝังในตัวจะได้รับพลังเหมือนดราก้อนสเลเยอร์ แต่เป็นดราก้อนสเลเยอร์ที่ไม่ได้เรียนวิชาจากมังกร ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากการกลายร่างเป็นมังกร แต่จะรับผลจากการเมาพาหนะ ในเรื่องนี้มีผู้ที่มีพลังนี้ คือ
- ลัคซัส เดรเยอร์ - ลาคริม่า ดราก้อนสเลเยอร์สายฟ้า - ผู้ฝังลาคริม่า พ่อของลัคซัส อีวาน เดรเยอร์
- คอบร้า - ลาคริม่า ดราก้อนสเลเยอร์พิษ - ผู้ฝังลาคริม่า เบรน
- ก็อด เซเรน่า- ลาคริม่า ทั้ง 8 ดราก้อนสเลเยอร์ ถ้ำ ทะเล ไฟนรก พายุ และอีก 4 ธาตุไม่ทราบ
- ดราก้อนสเลเยอร์ รุ่น 3
- เป็นจอมเวทดราก้อนสเลเยอร์ ได้เรียนวิชาจากมังกรและมีลาคริม่าฝังอยู่ในตัวด้วย มีผลทำให้กลายร่างเป็นมังกรเพราะได้รับการสอนมาจากมังกรโดยตรง ในเรื่องนี้มีผู้ที่มีพลังนี้ คือ
- สติง ยูคลิฟ - ดราก้อนสเลเยอร์ขาว - ผู้สอนและฝังลาคริม่า มังกรขาว ไวส์โลเกีย
- โร็ค เชนี่ - ดราก้อนสเลเยอร์เงา - ผู้สอนและฝังลาคริม่า มังกรเงา สกายอดัม
- โหมดมังกรผสานธาตุ
- เป็นดราก้อนสเลเยอร์ที่กินธาตุที่ 2 เข้าไป ทำให้ได้รับความสามารถในการใช้ธาตุที่ 2 ผสานกับธาตุตั้งต้น ทำให้สามารถใช้คุณสมบัติทั้งสองเพื่อเพิ่มพลังทำลายให้รุนแรงขึ้น มีพลังเวทมากขึ้นเหมือนดราก้อน ฟอร์ซ ซึ่งมีเวลาจำกัดในการใช้ยิ่งกว่าดราก้อน ฟอร์ซ กับพลังมากกว่า แต่หลังจากใช้แล้วร่างกายจะอ่อนแรงไปสักระยะ ในเรื่องมีผู้ที่ใช้ได้ คือ
- นัตสึ ดรากูนีล - ดราก้อนสเลเยอร์อัคคี ผสานกับ เวทปราบมังกรสายฟ้าของลัคซัส
- กาซิล เรดฟ็อกซ์ - ดราก้อนสเลเยอร์เหล็ก ผสานกับ เวทปราบมังกรเงาของโร็ค
- โร็ค เชนี่ (จากอนาคต) - ดราก้อนสเลเยอร์เงา ผสานกับ เวทปราบมังกรขาวของสติง
- ท่าลับดราก้อนสเลเยอร์
- เป็นท่าลับของดราก้อนสเลเยอร์ที่เป็นท่าเฉพาะในแต่ละธาตุของดราก้อนสเลเยอร์ ถือได้ว่าเป็นท่าไม้ตายสูงสุดในการโจมตี ในเรื่องมีผู้ที่ใช้ได้ คือ
- นัตสึ ดรากูนีล - ดราก้อนสเลเยอร์อัคคี - ดาบระเบิดเพลิงดอกบัวแดง, ดาบวิหคเพลิงโลกันต์, หมัดมังกรเพลิง
- กาซิล เรดฟ็อกซ์ - ดราก้อนสเลเยอร์เหล็ก - ดาบมังกรเหล็กแสงศักสิทธิ์
- เวนดี้ มาร์เวล - ดราก้อนสเลเยอร์นภา - คมมีดวายุ
- ลัคซัส เดรเยอร์ - ดราก้อนสเลเยอร์สายฟ้า - สายฟ้าคำราม
- คอบร้า - ดราก้อนสเลเยอร์พิษ - คลื่นเก็ดมังกรพิษ
- โร็ค เชนี่ - ดราก้อนสเลเยอร์เงา - ดาบชาโดว์แบ็คเงากลืนกิน
- สติง ยูคลิฟ - ดราก้อนสเลเยอร์ขาว - โฮลี่โนว่า
- ดราก้อน ฟอร์ซ
- วิชาขั้นสูงสุดของเวทปราบมังกรที่ดราก้อนสเลเยอร์สามารถทำได้ เป็นวิชาที่เพิ่มพลังให้ตนเอง เมื่อใช้แล้วทำให้มีพลังเวทมากขึ้น 2-3 เท่า เปรียบเสมือนกับการใช้ โหมดมังกรผสานธาตุ แต่หลังจากใช้แล้วร่างกายจะอ่อนแรงไปสักระยะ ในเรื่องมีผู้ที่ใช้ได้ คือ
- นัตสึ ดรากูนีล - ดราก้อนสเลเยอร์อัคคี ครั้งแรกตอนกินเอเทเรี่ยน ครั้ง 2 ตอนกินไฟสีทองของเจราล ต่อมาก็ฝึกจนชำนาญ
- โร็ค เชนี่ - ดราก้อนสเลเยอร์เงา
- สติง ยูคลิฟ - ดราก้อนสเลเยอร์ขาว
- เวนดี้ มาร์เวล - ดราก้อนสเลเยอร์นภา
- กาซิล เรดฟ็อกซ์ - ดราก้อนสเลเยอร์เหล็ก
- ลาคริม่า
- ผลึกชนิดหนึ่งในโลกเวทมนตร์ สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ที่เอโดราสลาคริม่าถูกนำมาผสมกับอาวุธจนกลายเป็น อุปกรณ์พลังเวท และพลังงาน ถ้าเอาไปฝังในมนุษย์จะกลายเป็นดราก้อนสเลเยอร์รุ่นที่ 2 แต่ถ้าดึงลาคริม่า ผู้ที่ถูกฝังจะเป็นอันตรายถึงชีวิต
- R System
- หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หอคอยสวรรค์ เป็นสถานที่ที่สามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืนชีพได้ โดยต้องแลกกับชีวิตคน 1 คน เพื่อชุบชีวิต 1 คน โดยในเรื่องเจราลที่ถูกอุลเทียร์ใช้เวทควบคุมจิตใจให้สร้างหอคอยนี้ขึ้นต่อหลังจากที่คนคุมการสร้างก่อนหน้านี้ถูกฆ่าไป เพื่อฟื้นคืนชีพจอมเวทมนตร์ดำเซเรฟ ต้องใช้พลังงาน 2.7 ล้าน อีเดีย แต่การคืนชีพไม่สำเร็จ เนื่องจากถูกนัตซึขัดขวางและทำลายหอคอย
- อาวุธของสภาจอมเวท
- อาวุธของทางสภาจะใช้ตามระดับความอันตราย ตามความสำคัญ
- เอเทเรี่ยน - เป็นเวทมนตร์ขั้นสูงสุดที่เกิดจากการบีบอัดพลังเวทหลายๆธาตุหลายๆชนิดบรรจุไว้ในแท่นหินยักษ์ที่เป็นตัวกลางในการยิงพลังเวทเอเทเรี่ยนที่ชื่อ แซทเทิลไลท์ สแควร์ (Satellite Square) ถือเป็นอาวุธไพ่ตายสุดท้ายของสภาจอมเวท มีพลังรุนแรงถึงขนาดสามารถล้างประเทศหนึ่งให้หายไปได้ในพริบตา สภาจอมเวทเคยตัดสินใจใช้เอเทเรี่ยนทำลาย R System แต่หารู้ไม่ว่าเอเทเรี่ยนนั้น กลับทำให้ R System นั้นสมบูรณ์ (จริงๆเป็นแผนการที่ซิกเรน - เจราลวางไว้ตั้งแต่แรกแล้ว) โดยการใช้เอเทเรี่ยนจำเป็นต้องได้รับการยอมรับจากสมาชิกของสภาจาก 5 คน จากใน 9 คน แต่ 7 ปีต่อมาได้เปลี่ยนเป็น 9 คน
- เฟธ - มรดกสีขาว ที่มีสมาชิกของสภาไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องนั้น เป็นความลับของสภาจอมเวทเฟธคือระเบิดพัลธ์เวทมนตร์ เป็นอาวุธที่จะทำให้ไม่สามารถทำให้ใช้การเวทมนตร์ได้ทั้งทวีป
- สมาพันธ์บาลาม
- คือกิลด์แห่งความมืดระดับมหาอำนาจ 3 แห่งมารวมกัน ประกอบด้วยโอราเชี่ยน เซส (ปัจจุบันสมาชิกทั้งหมดถูกจับโดยสภาจอมเวท) , กรีมมัวร์ ฮาร์ต และทาร์ทารอส ซึ่งแต่ละกิลด์นั้นจะมีกิลด์ย่อยน้อยใหญ่อยู่ในอาณัติด้วย 7 ปีต่อมาหลังจากการทำลายล้างของแอคโนโลเกีย กิลด์แห่งความมืดระดับมหาอำนาจในสมาพันธ์บาลามเหลือเพียงแต่ทาร์ทารอส ในเรื่องมีกิลด์ทั้ง 3 และทั้ง 3 กิลด์ที่มีจอมเวทระดับ S หรือผู้ที่แข็งแกร่งในกิลด์ที่เป็นสมาชิกหลัก ที่ถูกเรียกเป็นกลุ่ม ที่ยศอยู่ต่ำกว่า กิลด์มาสเตอร์ คือ
- โอราเชี่ยน เซส - กุญแจคำอธิษฐานทั้ง 6 มี 6 คน
- กรีมมัวร์ ฮาร์ต - กลุ่มเจ็ดวงศานรก มี 7 คน และมีรองกิลด์มาสเตอร์ อีก 1 คน ที่เป็นผู้รับผิดชอบ
- ทาร์ทารอส - ประตูผีทั้ง 9 มี 9 คน และมีรองกิลด์มาสเตอร์ อีก 1 คน ที่เป็นผู้รับผิดชอบ
- เนอร์วาน่า
- เป็นสิ่งก่อสร้างที่ทำงานโดยสูบเวทมนตร์เป็นพลังงาน ซึ่งเป็นเวทมนตร์ที่สามารถสลับความดีความชั่วในจิตใจของคน ถ้าคนดีโดนพลังของเนอร์วาน่าจะกลายเป็นคนเลว แต่ถ้าคนเลวโดนพลังของเนอร์วาน่าจะกลายเป็นคนดี โดยการทำงานของเนอร์วาน่าจะทำงานต่อคนที่อยู่ใกล้รัศมีของเนอร์วาน่า ซึ่งเป็นคนที่อยู่ใกล้ๆเนอร์วาน่า ที่มีจิตใจรู้สึกแค้นต่อคนสำคัญกับตนที่เสียชีวิตไป หรือว่ากำลังสับสนระหว่างความดีกับความชั่วแล้วจะสลับความดีความชั่วในทันที แต่ว่าถ้าคนสำคัญยังมีชีวิตอยู่ พลังของเนอร์วาน่าจะหายไปทันที จุดอ่อนของเนอร์วาน่า คือ ที่ขาทั้ง 6 จะคอยดูดซับพลังเวท และจะฟื้นฟูตน แต่ละขาจะมีลาคริม่าที่ฟื้นฟูตนอยู่ที่แต่ละขา จึงมี 6 อัน ซึ่งถ้าทำลายลาคริม่าไปแค่ที่หนึ่ง ลาคริม่าที่เหลือจะซ่อมแซมกลับเป็นเหมือนเดิมในทันที แต่ถ้าทำลายยไปพร้อมกันหมดในเวลาเดียว เนอร์วาน่าจะถูกทำลายในทันที
- อูราโน่ เมเทรีย
- เป็นสุดยอดเวทมนตร์ของผู้ใช้เทพแห่งดวงดาว เป็นพลังของเทพดวงดาวทั้ง 88 ที่ต้องร่ายทำนองออกมาพอปล่อยพลังออกมาเป็นเวทโจมตีที่รุนแรงเมื่อใช้แล้วแรงจะหมดแรงทันที
- โลกเอโดราส
- เป็นโลกที่มีขีดจำกัดในการใช้พลังเวทมนตร์ซึ่งขนานกันกับโลกเอิร์ธแลนด์ มีชนเผ่าอาศัยอยู่สองเผ่า คือ เผ่ามนุษย์กับเผ่าเอ๊กซ์ซีด (exceed เป็นเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตรูปร่างแมว แต่สติปัญญาและความคิดนั้น ใกล้เคียงกับมนุษย์มาก เป็นเพียงเผ่าเดียวที่สามารถใช้เวทมนตร์สายลมในการเสกปีกบินได้อย่างอิสระ) หากชาวโลกเอโดราสต้องการใช้เวทมนตร์ จำเป็นต้องค้นหาหินลาคริม่ามาผสมกับสิ่งของที่เราต้องการ เพื่อสร้างอุปกรณ์พลังเวทขึ้นมา (magic item) ที่โลกนี้ก็มีกิลด์แฟรี่เทลอยู่เหมือนกัน แต่ทุกๆ คน จะมีนิสัยที่กลับกันกับแฟรี่เทลในโลกเอิร์ธแลนด์โดยสิ้นเชิง เช่นนัตสึตัวจริงในเอิร์ธแลนด์แพ้ยานพาหนะ แต่นัตสึในเอโดราสชอบยานพาหะเป็นชีวิตจิตใจ เกรย์ตัวจริงในโลกเอิร์ธแลนด์ไม่ชอบใส่เสื้อผ้า เกรย์ในเอโดราสก็จะชอบใส่เสื้อเสื้อผ้าหนาๆ แทน หรือเวนดี้ตัวจริงในเอิร์ธแลนด์จะเป็นผู้หญิงร่างเล็ก เวนดี้ในเอโดราสก็จะเป็นผู้หญิงที่รูปเป็นวัยรุ่นแทน เป็นต้น ราชาที่ปกครองที่โลกนี้ชื่อฟอลต์ ซึ่งเป็นพ่อของมิสกัน (เจราลในเอโดราส) ด้วย
- อานิม่า
- เป็นเวทมนตร์มิติเวลาขั้นสูงที่กษัตริย์ฟอลต์ในโลกเอโดราสสร้างขึ้น เพื่อทำการเก็บเกี่ยวพลังเวทจากโลกอื่นๆ โดยการดูดพลังเวทจากสิ่งต่างๆ แล้วทำการกลายสภาพให้เป็นลาคริม่า จากนั้นจะทำการสกัดพลังเวทออกมาจากลาคริม่าอีกที อานิม่าเปรียบเสมือนสะพานที่เชื่อมต่อกันระหว่างโลกสองโลกเข้าด้วยกัน เคยดูดกิลด์แฟรี่เทลในโลกเอิร์ธแลนด์ไป แต่นัตสึ เวนดี้ กาซิลไม่ถูกดูดไป เนื่องจากเป็นดราก้อนสเลเยอร์ มีพลังเวทที่สามารถต่อต้านพลังเวทอานิม่าได้ แต่ถ้าอานิม่าสลับขั้วจะทำให้เวทมนตร์ในเอโดราสทั้งหมดถูกส่งมาที่เอิร์ธแลนด์แทน
- เอกซ์ซีด
- สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมิติเอโดลาส เป็นเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตรูปร่างแมว แต่สติปัญญาและความคิดนั้นใกล้เคียงกับมนุษย์มาก เป็นเพียงเผ่าเดียวที่สามารถใช้เวทมนตร์สายลมในการเสกปีกบินได้อย่างอิสระ แต่พละกำลังจะอ่อนแอกว่ามนุษย์ ปัจจุบันอาศัยอยู่ในมิติเอิร์ธแลนด์
- โดม่า อานิม
- มีความหมายว่านักรบมังกร คืออาวุธต้องห้ามที่ถูกผนึกไว้ที่โลกเอดราส เป็นอุปกรณ์พลังเวทที่เป็นหุ่นยนต์มังกรยักษ์ที่สามารถดูดซับพลังงานเวทมนตร์มาเป็นพลังงาน มีเกราะป้องกันพลังงานเวทมนตร์จากด้านนอก
- จอมเวทดำเซเรฟ
- เป็นจอมเวทที่ชั่วร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์หลากหลายแขนงต่างๆ และร่างกายถูกสาป มีชีวิตมากว่า 400 ปี มีชีวิตที่เป็นอมตะ โดยมีพลังทำให้รัศมีรอบข้างสามารถแผ่รังสีแห่งความตายออกได้ เมื่อใครก็ตามโดนสิ่งนั้นจะตายในทันที โดยความเกลียดชังของคนที่ตายไปเพราะเหตุนั้นจะถูกเซเรฟดูดเข้าไปในตัว เพื่อเพิ่มเป็นพลังเวท หลังจากจบเทศกาลราชามัลกรเซเรฟได้เห็นสงครามจนเข้าใจถึงสิ่งที่ตนทำ จึงคิดที่จะไม่ทำอะไร โดยไม่ยุ่งเกี่ยว เป็นมิตรหรือศัตรูฝ่ายไหนโดยเด็ดขาด เหมือนกับการหลับไหลที่ปิดผนึกตัวเอง แต่เพราะการก่อสงครามของกริมมัวร์ ฮาร์ททำให้พลังในตัวเซเรฟต้องตื่นขึ้นอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นผลทำมห้โลกเข้าสู่ยุคแห่งหายนะ ในสมัยเมื่อ 400 ปี ก่อนเซเรฟได้สร้างหนังสือของเซเรฟขึ้นมาหลายเล่ม โดยแต่ละเล่มมีปีศาจที่เซเรฟสร้างขึ้นมา 1 ตัว ต่อ 1 เล่ม พวกปีศาจพวกนั้นต้องการไปหาผู้สร้าง เหล่าจอมเวทต่างก็ต้องการเซเรฟเพราะเชื่อว่าเมื่อใดที่ได้เซเรฟมาครอง จะสามารถสร้างโลกเวทมนตร์ของเซเรฟได้ แต่นั้นเป็นเรื่องหลอกลวง
- Lost Magic
- เวทมนตร์ของเซเรฟ เป็นเวทมนตร์ที่สาบสูญในอดีตเมื่อ 400 ปีที่แล้ว แต่มีข้อเสียของการใช้คือถ้าใช้มากเกินไปจะทำให้ร่างกายแปรสภาพไปตามชนิดของ Lost Magic ที่ใช้ แล้วก็ตายในที่สุด
- ก็อดสเลเยอร์
- เป็นจอมเวทที่ถูกพระเจ้า (ความจริงเป็นมนุษย์ที่ใช้ Lost Magic) เลี้ยงดูและถ่ายทอดเวทมนตร์ให้มีความสามารถเหมือนกับดราก้อนสเลเยอร์ รวมทั้งสามารถใช้เวทมนตร์ปราบพระเจ้าได้ เวทมนตร์ที่ก็อดสเลเยอร์ใช้ลักษณะเป็นธาตุและมีสีดำ เป็น Lost Magic รูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นเวทที่ดราก้อนสเลเยอร์ไม่สามารถกินได้ แต่ก็อดสเลเยอร์สามารถกิยเวทของดราก้อนสเลเยอร์ได้ ซึ่งผู้ที่เป็นก็อดสเลเยอร์ในเรื่อง ได้แก่
- ซันโครว - ก็อดสเลเยอร์อัคคี - ผู้สอนมาสเตอร์ฮาเดส
- ออก้า นานาเกียร์ - ก็อดสเลเยอร์อัสนี - ผู้สอนไม่ทราบ
- เชอเรีย เบลนดี้ - ก็อดสเลเยอร์นภา - เรียนด้วยตนเอง (ความจริงแกรนโดม่าเป็นมอบหนังสือเรื่องก็อดสเลเยอร์ให้)
- งานประลองเวทมนตร์
- เป็นการแข่งขันที่ประเทศฟิโอเร่จัดตั้งขึ้นเพื่อหากิลด์จอมเวทที่เป็นอันดับ 1 ของแต่ละปี เริ่มจัดตั้งขึ้นเมื่อ 1 ปี หลังจากคนของแฟรี่เทลที่อยู่บนเกาะเทนโรวหายไป รูปแบบการแข่งขันแต่ละปีจะแตกต่างกันไป โดยให้ 1 ทีม มาจาก 1 กิลด์ แต่ปี x791 ได้มีการเปลี่ยนแปลงให้มี 2 ทีม ใน 1 กิลด์ ในทีมต้องเป็นสมาชิกของกิลด์ ห้ามไม่ให้กิลด์มาสเตอร์ประจำกิลด์กับคนนอกกิลด์ห้ามร่วมทีมกับกิลด์ ในทีมหนึ่ง มี 5 คน สามารถเปลี่ยนสมาชิกได้ตลอด รอบแรกเป็นการเกณฑ์ทีม โดยให้ทีมทั้งหมดที่เข้าร่วม ทีมที่ได้ 8 อันดับแรก จะได้เข้าแข่งในรอบสอง เป็นเหมือนในแต่ละวันในการแข่งตั้งแต่วันที่ 1-4 จะเป็นแข่งวันละ 2 รอบ รอบแรกของแต่วันจะแข่งแบบกีฬาโดยให้ 8 ทีม แข่งขันกันโดยมี 8 อันดับ แต่ละอันดับ มีคะแนนเรียงลำดับจากมากไปน้อย 10-8-6-4-3-2-1-0 (สามารถให้แต่ละทีเลือกสมาชิกลงเองได้) ในการแข่งรอบ 2 ของแต่ละวันจะเป็นการสู้กันของ 4 คู่ คู่ละ 2 ทีม โดยมีเวลา 30 นาที ฝ่ายที่ชนะได้ 10 คะแนน ฝ่ายแพ้ 0 คะแนน ถ้าทั้ง 2 ทีมเสมอได้ 5 คะแนน (ในการแข่งรอบ 2 กรรมการจัดงานจะเป็นคนเลือกเอง ถ้าคนแข่งมาไม่ได้ต้องส่งตัวสำรองไปแทนได้) ในวันที่ 5 จะเป็นวันหยุดพักผ่อนเพื่อเตรียมการรอวันแข่งครั้งสุดท้าย แต่การแข่งรอบสุดท้ายจะเป็นแบบสู้กันเพื่อหาทีมที่เหลือรอด ที่แข็งแกร่งที่สุด โดยทีมที่มีคะแนนมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะ โดยกติกาถ้าชนะหัวหน้าทีมได้ 5 คะแนน ถ้าจัดการสมาชิกในทีมได้ 1 คะแนน โดยต่อให้สมาชิกทั้งหมดในทีมแพ้ แต่ได้คะแนนรวมเยอะสุดก็ชนะได้ โดยวันงานมีตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค ถึง 6 ก.ค ของทุกปี แท้จริงแล้วงานประลองเวทมนตร์มีอีกชื่อหนึ่งว่าเทศกาลราชามังกรงานเลี้ยงของมนุษย์ มังกร และปีศาจ ในอดีตเป็นสงครามที่ก่อให้เกิดแอคโนโลเกีย
- ประตูอุปราคา
- เวทมนตร์ที่มาจากสมุดของเซเรฟ เป็นประตูที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลก หรือก็คือประตูยักษ์ที่สามารถย้อนเวลาได้ การที่จะทำให้มันทำงานต้องใช้พลังเวทมหาศาล โดยอุปราคามีพลังงานเทียบเท่ากับเอเทเรี่ยน อาวุธของสภาจอมเวท แท้จริงอุปราคาเป็นเครื่องมือที่รวมพลังเวทมนตร์ที่มาจากสมุดของเซเรฟและเวทอัญเชิญของเทพแห่งดวงดาวเข้าด้วยกัน อุปราคาเป็นเหมือนเครื่องเดินทางข้ามเวลาไปอดีตกับอนาคต การทำงานของมันต้องใช้กุญแจเทพดวงดาวกลุ่ม 12 ราศี ทั้งหมด 12 ดอกเพื่อให้กลไกของมันทำงาน แต่ถ้ามีกุญแจไม่ครบต้องใช้พลังเวทของจอมเวททดแทน พร้อมกับต้องเป็นตอนที่เกิดดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เคลื่อนที่ตัดกัน โดยถ้าหากใช้เวททนตร์ใกล้ประตูอุปราคา ก็จะถูกดูดพลังเวทไป เมื่อคนเข้าประตูนั่นไปก็จะถูกคลุมด้วยพลังเวทที่คล้ายกับเซเรฟ แต่จะไม่เป็นไร ถ้าใครย้อนเวลากลับไปในอดีตก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ในอดีตทำให้โลกในปัจจุบันกับอนาคตเปลี่ยนแปลงจนเกิดความโกลาหลก็เป็นไปได้ แต่อุปราคาสามารถใช้ได้เพียงวิธีเดียว การเดินทางข้ามเวลาไปในอดีต ซึ่งการที่จอมเวทใช้เวทใกล้อุปราคา อุปราคาจะดูดพลังเวททั้งหมดจากจอมเวทคนนั้น โดยการที่จะไปช่วงเวลาไหนนั้นโดยไม่ได้ระบุพิกัดเวลาสถานที่จะหลงในช่วงเวลาตลอดไป นอกจากว่าจะมีจอมเวทแห่งดวงดาวที่รู้กับใช้พลังเวทเพื่อหยุดกับเรียกสิ่งที่อยู่ในช่วงเวลาออกมาสู่ยุคสมัยนั้น แต่ว่ามีผลข้างเคียงคือการที่จอมเวทแห่งดวงดาวคนนั้นใช้พลังเวทจะต้องเสียชีวิตทันทีถ้าเกิดมีกุญแจไม่ครบเป็นต้น
- ลาส เอจส์
- เป็นเวทมนตร์ของ Lost Magic ถ้าใครใช้เวทนั้นจะสามารถทำให้ทั้งโลกย้อนเวลากลับได้โดยผู้คนทั้งโลกเห็นภาพเหตุการณ์ในอนาคตก่อนย้อนมาได้ แต่ผู้ใช้จะสูญเสียเวลาที่เหลือทั้งหมดของตน หรือชีวิตจนร่างการกายสภาพไปเป็นคนแก่จนตายไปในทันที โดยทำให้ทุกคนทั้งโลกสามารถเห็นภาพเหตุการณ์ของตนเองจากอนาคตได้แต่แค่พวกคนที่มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาปัจจุบันเท่านั้น ถ้าสิ่งมีชีวิตที่มาจากช่วงเวลาอื่นจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แต่ถ้ามาอยู่ในช่วงเวลอื่นเป็นเวลานานก็สามารถรับรู้ถึงเรื่องของลาส เอจส์ได้
- แมกกีเนียม
- โลหะสะท้อนเวทมนตร์ที่สามารถสะท้อนเวทมนตร์ได้หมดทุกชนิด โดยที่เวทมนตร์มาสัมผัสจะไม่เกิดผลอะไร วิธีทำลายมีแต่ต้องทำลายโดยสิ่งที่ไม่ใช่เวทมนตร์เท่านั้นที่ทำได้ ในเรื่อง RAVE MASTER ใช้โลหะชนิดนี้ในกาสร้างดาบ Ten Commandment
- เดวิลสเลเยอร์
- เป็นจอมเวทที่ถูกปีศาจากหนังสือของเซเรฟ เลี้ยงดูและถ่ายทอดเวทมนตร์ให้มีความสามารถเหมือนกับจอมเวทสเลเยอร์ แต่ว่าเป็นเวทที่จอมเวทสเลเยอร์ไม่สามารถกินได้ รูปแบบพลังที่ใช้ลักษณะ Exorcist Mages เป็นคำสาป ซึ่งถ้าใช้มากเกินไป จะมีอักขระโผล่ออกมาตามตัวจนลุกลามไปทั่วกับจะเปลี่ยนร่างผู้ใช้กลายเป็นปีศาจ ผู้ที่เป็นเดวิลสเลเยอร์ในเรื่อง ได้แก่
- ซิลเวอร์ ฟูลบัสเตอร์ - เดวิลสเลเยอร์น้ำแข็ง - ผู้สอน ปีศาจ
- เกรย์ ฟูลบัสเตอร์ - เดวิลสเลเยอร์น้ำแข็ง - ผู้สอน ซิลเวอร์ ฟูลบัสเตอร์
- ปีศาจจากหนังสือของเซเรฟหรืออีเทอร์เรียส
- คือปีศาจที่ชั่วร้ายที่จอมเวทดำเซเรฟเป็นผู้สร้าง หรืออีกชื่อหนึ่งคืออีเทอร์เรียส โดยพวกมันอยู่ในหนังสือของเซเรฟ 1 ตัว ต่อ 1 เล่ม ปีศาจจากหนังสือของเซเรฟไม่ได้ใช้พลังของเวทมนตร์ แต่สิ่งที่ใช้ คือ คำสาป โดยหลักแล้วไม่ใช่ว่าจะเป็นปีศาจที่เซเรฟสร้างขึ้นมาทุกตัว แต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ เช่น มนุษย์ หรือสัตว์ เป็นต้น เอาไปใส่ในแกนนรกของทาร์ทารอส เมื่อร่างกายทนรับได้ก็จะทำให้กลายเป็นอีเทอร์เรียส ต่อให้ตายก็จะคืนชีพที่แกนนรกของทาร์ทารอสได้ตลอด ถ้าแกนนรกยังไม่ถูกทำลาย ซึ่งอีเทอร์เรียสทุกตัวนั้นต้องการกลับไปหาเซเรฟ โดยที่ไม่รู้เลยว่าต้องฆ่าเซเรฟที่เป็นผู้สร้าง เพราะพลังของอีเทอร์เรียสเท่านั้นที่เป็นพลังคำสาป แบบเดียวกับของเซเรฟสารารถต่อกรกับเซเรฟได้
- คำสาป
- พลังที่ปีศาจจากหนังสือของเซเรฟ เปรียบเสมือนจอมเวทใช้เวทมนตร์ แต่ปีศาจจากหนังสือของเซเรฟจะใช้คำสาปแทน
- แกนนรก
- เป็นแกนกลางที่อยู่ในใจกลางของกิลด์ทาร์ทารอส เมื่ออีเทอร์เรียสเสียชีวิตก็จะฟื้นคืนชีพที่แกนนรก โดยต้องใช้เวลาในการคืนชีพเพราะว่าถ้าออกมาก่อนจะฟื้นตัวเสร็จจะอ่อนแอ แต่ถ้าฟื้นตัวเสร็จตามกำหนดจะแข็งแกร่งกว่าเดิม แต่ถ้าใส่สิ่งมีชีวิตอื่นเข้าไปที่ไม่ใช่อีเทอร์เรียส จะเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตนั้นเป็นอีเทอร์เรียส ปัจจุบันแกนนรกถูกมิร่าทำลายลงทำให้อีเทอร์เรียสไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้อีก
- อีเทอร์เรียสฟอร์ม
- เป็นร่างที่พลังมากที่สุดของอีเทอร์เรียส เปรียบเสมือนดราก้อนฟอร์ดของดราก้อนสเลเยอร์ คือร่างกับพลังที่แท้จริงอีเทอร์เรียส
- E.N.D
- เวทมนตร์ที่ชั่วร้ายที่สุดจากหนังสือของเซเรฟ เป็นปีศาจไฟ เป็นหนังสือที่มีหน้าปกว่า E.N.D แท้จริงคือปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดในหนังสือของเซเรฟ ในอดีตในงานเทศกาลราชามังกร E.N.D คือสิ่งที่ราชามังกรไฟ อิกนีลไม่สามารถทำลายได้ โดยหนังสือ E.N.D ถูกมาร์ด เกียร์เก็บได้โดยบังเอิญ ซึ่งทำให้มาร์ด เกียร์คิดไปเองว่า มีปีศาจหลับใหลในนั้น มาร์ด เกียร์สร้างกิลด์ ทาร์ทารอส ตั้งตนเป็นมาสเตอร์ของกิลด์ มาตลอด 400 ปี เพื่อเป้าหมายคือ สถานที่ของเซเรฟ โดยหนังสือนั้นถ้าถูกเปิด E.N.D จะตื่นขึ้นมากับไปยึดร่างกับรวมตัวกับนัตสึ โดยถ้าหนังสือถูกทำลายนัตสึก็เสียชีวิต
- เฟธ
- เวทมนตร์ที่สามารถทำให้เวทมนตร์ใช่ไม่ได้ทั้งทวีป ถูกผนึกโดยจอมเวทสามคน มีเพียงประธานสภาเวทมนตร์เท่านั้นที่รู้ที่อยู่ของทั้งสาม ผนึกที่ผนึกเฟธที่เป็นกุญแจ คือชีวิตของคนที่ทำหน้าที่เป็นผนึก ถ้าคนที่ทำหน้าที่ผนึกตาย กุญแจผนึกเฟธ ก็จะคลาย แต่ถ้าตายไป แค่ 2 คน เฟธ จะไม่ทำสามารถทำงานได้ ถ้ากุญแจชีวิตของตนที่ผนึกเฟธ ตายไป ครบ 3 คน เฟธจะทำงาน แล้วจะต้องควบคุมเฟธด้วยมือจะสามารถทำงานได้ หลังจากนั้นจะทำให้เวทมนตร์ทั้งทวีปไม่ทำงาน โดยเฟธทำเป็นจะมีรูปร่างเป็นหินหน้าคนมองแหงนขึ้นฟ้าที่มีรูปหน้าคนแตกต่างกันไปโดยมีทั้งหมด 3 พันจุด เมื่อทำงานพร้อมกันทำให้ทั้งทวีปจะเกิดการระเบิด แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบระเบิดทำลายล้างแต่เนระเบิดเมื่อทำงานทุกสิ่งทุกอย่างจะไม่เป็นไรทั้งทวีป แค่ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อีกตลอดไป ปัจจุบันเฟธทั่วทวีปทั้งหมดถูกทำลายโดยมังกร 4 ตัวที่เลี้ยงดูดราก้อนสเลเยอร์ ยกเว้นอิกนีล
- อิชกัล
- ชื่อทวีปในเอิร์ธแลนด์ ที่อยู่ในเรื่อง โดยอิชกัลเป็นชื่อในอดีต เป็นทวีปที่มี 14 ประเทศได้แก่
- ฟิโอเร่ - ประเทศหลักที่อยู่ในเนื้อเรื่อง
- เซเว่น - ประเทศที่อยู่ตะวันออกเฉียงเหนือของฟิโอเร่
- บอสโก - ประเทศที่อยู่ตะวันออกของฟิโอเร่
- ไอซ์เบิร์ก - ประเทศที่อยู่ตะวันออกของเซเว่น,ตะวันออกเฉียงเหนือของบอสโก,ทางเหนือของโจยา ตะวันตกเฉียงเหนือของเบลลัมกับตะวันตกของพรีแกรนเด้
- มินสเตรียล - ประเทศที่อยู่ตะวันออกเฉียงใต้ของฟิโอเร่
- มิดิ - ประเทศที่อยู่ทางใต้ของมินสเตรียล
- เดสิเอโต้ - ประเทศที่อยู่ตะวันออกของมินสเตรียล
- โจยา - ประเทศที่อยู่ทางเหนือของเดสิเอโต้
- เบลลัม - ประเทศที่อยู่ตะวันออกของเดสิเอโต้
- ซิน - ประเทศที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรภาคใต้ของทวีป กับเป็นประเทศที่ติดกับพรีแกรนเด้
- คาเอลัม - ประเทศที่ติดทะเลอยู่ตรงตะวันตกของมินสเตรียล
- เอนคา - ประเทศที่อยู่ทางใต้ของซิน
- พรีแกรนเด้ - ประเทศที่อยู่ตะวันออกเฉียงเหนือของทวีป กับมีขนาดใหญ่ที่สุด
- อีเทอร์นาโน
- เป็นอนุภาคที่อยู่ในตัวสิ่งมีชีวิตที่มีเวทมนตร์และมีในบรรยากาศ
- พิธีชำระล้าง
- คือการฆ่ากวาดล้างเหล่าคนที่บูชานับถือเซเรฟจำนวนมากเพื่อเรียกเซเรฟออกมา
- เทพเจ้านักรบทั้ง 18 ของยัคม่า
- เป็นพระเจ้าที่เป็นเทพแห่งสงครามของยคม่าที่มีขนาดใหญ่ ที่แข่งแกร่งที่สุด มีทั้งหมด 18 ตน โดยถูกเรียกด้วยเวทอัญเชิญเหมือนเทพแห่งดวงดาว
- อิคุซา สึนางิ - แค่เหวี่ยงดาบเพียงครั้งเดียวทให้แผ่นดินแยก ถูกเรียกโดยอาร์ล็อก เพื่อทำพิธีชำระล้างเพื่อฆ่าคนที่นับถือบูชาเซเรฟทั้งหมดในกิลด์อวตารทั้งหมด เพื่อเรียกเซเรฟมา แต่ก็ถูกนัตสึฆ่าอย่างง่ายดาย
- เทศกาลราชามังกร
- สงครามระหว่าง มังกร มนุษย์ และปีศาจ โดยเป็นเหมือนวันสิ้นโลก เพราะเคยเกิดเหตุการณ์ในอดีตทำให้เกิดแอคโนโลเกียที่เป็นความผิดพลาดที่มังกรสร้างขึ้นมา ที่จะทำลายทุกสิ่ง ในทวีปอาราซิตาเซีย จะเรียกว่าแร็กนาร็อก
- ทวีปอาราซิตาเซีย
- เป็นทวีปฝั่งตะวันตกของเอิร์ธแลนด์
- อาณาจักรอัลวาเรซ
- เป็นอาณาจักรที่ถูกก่อตั้งโดยการรวมตัวของกิลด์ทั้งหมดของทวีปอาราซิตาเซีย (ทวีปฝั่งตะวันตก) 730 กิลด์ โดยผู้นำคือจักรพรรดิสปริกกันหรือเซเรฟ
- ความจริงของมาคาลอฟที่ยุบแฟรี่เทล
- ในปี x783 สมัยก่อนี่ลูซี่เข้ากิลด์แฟรี่เทล มาสเตอร์มาคาลอฟได้ส่งเมสต์ไปแฝงตัวในสภาเพื่อหาข้อมูลของทวีปตะวันตกเพื่อปกป้องกิลด์ ตอนแรกไม่ได้ความคืบหน้า ทางเมสต์ขอลบความทรงจำตนเพื่อความคืบหน้า ทางมาคาลอฟก็้ามแต่เมสต์บอกว่ากุญแจฟื้นความจำอยู่ที่มาคาลอฟ จนมาคาลอฟยอม ในปี x791 งานประลองเวทมนตร์เมสต์จำได้ไปหามาคาลอฟ มาคาลอฟเห็นว่าภารกิจนานเกินไป จึงสั่งให้เมสต์กลับมาที่กิลด์ ทางเมสต์ขออยู่ต่อเพราะใกล้ได้ข้อมูล พอจบศึกทาร์ทารอส ก็รายงานข้อมูลสุดท้ายจนมาคาลฟทราบว่าแฟรี่เทลไม่มีโอกาสชนะ จึงคิดจะสั่งยุบกิลด์ แล้วไปทวีปอาราซิตาเซีย เพราะถ่วเวลากับไม่ให้มารุนรานอิชกัล เมสต์ก็ห้ามเพราะเห็นว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่มาคาลอฟไม่ฟัง ทางเมสต์หลังจากมาคาลอฟไปไม่นานก็ไปหาวัลร็อรวบรวม10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่เหลือก่อตั้งเป็นสภาให้มั่นคง ในปี x792 แฟรี่เทลถูกก่อตั้งอีกครั้งโดยมาสเตอร์คือเอลซ่า เมสต์ก็กลับมา
- ความจริงเมื่อ 400 ปีก่อนของเซเรฟ
- เมื่อ 400 ปีก่อนครอบครัวของเซรเฟเสียชีวิตเพราะเพลิงของมังกร นัตสึก็ถูกฆ่าด้วย เซเรฟได้หาทางทำให้นัตสึกลับมา ซึ่งก็คืออีเทอร์เรียส ส่วนทาร์ทารอสนั้นถูกมาร์ด เกียร์ สร้างขึ้นมาเพราะมาร์ด เกียร์ได้พบหนังสือ E.N.D กับคิดหาทางคืนชีพ E.N.D จากนั้นเซเรฟไปหาอิกนีลที่เป็นเพื่อนขอคำปรึกษา อิกนีลเป็นมังกรที่ไม่เคยเกลียดชังมนุษย์ โดยทั้งคู่เจอกันตอนที่เซเรฟหาสมุนไพรมาวิจัย อิกนีลบอกแผนสร้างดราก้อนสเลเยอร์ด้วยกันกับมังกรที่เหลือ จากเด็กกำพร้าง 5 โดยนัตสึเป็น 1 ในนั้น กับแผนไปอนาคตด้วยเวทวิญญาณมังกร โดยกลายเปป็นพลังให้ดราก้อนสเลเยอร์ใช้ ทั้งหมดเพื่อกำจัดแอคโนโลเกีย สาเหตุที่พวกมังกรต้องไปอนาคตเพราะว่าพวกมังกรอ่อนแอลงและรู้ดีว่าต้องหาอีเทอร์นาโนที่เข้มข้นสูงให้มากที่สุดเพื่อฟื้นพลังของตน กับต้องการเอเทอร์นาโนเพื่อที่จะทำลายเวทใส่ตนเอง โดยเด็กที่ถูกเลือกทั้ง 5 คือเด็กกำพร้า คือนัตสึ กาซิล เวนดี้ สตริง โร็ค กับเซเรฟขออนุญาตอิกนีล ให้นัตสึแข็งแกร่งพอที่จะฆ่าเซเรฟได้ เพราะเป็นสิ่งที่เซเรฟหวัง โดยตอนที่รอคอยก่อนอุปราคาทำงาน มังกรก็สร้างดรากอนสเลเยอร์ พออุปราคาทำงานเพื่อเดินทางไปอนาคต โดยไม่มีแผนว่าจะหยุดเมื่อไหร่ ทั้งหมดแค่ทำตามแผนของแอนนา กับคนที่เปิดประตูมาในอนาคตเพื่อพาพวกมังกรกับดราก้อนสเลเยอร์มายังอนาคตก็คือ ลูกหลานของแอนนาที่ชื่อเลย์ล่าเป็นจอมเวทแห่งดวงดาว กับเป็นแม่ของลูซี่ ในวันที่ 7 ก.ค X777 แต่เลย์ล่านั้นมีกุญแจไม่ครบจึงต้องใช้พลังเวทของตนทดแทน แต่เดิมเลย์ล่าเกิดมาร่างกายอ่อนแอ ทำให้เลย์ล่ากลายเป็นโรคขาดพลังเวทจนมีชีวิตเหลืออีกไม่นาน ทำให้เลย์ล่าเสียชีวิตเพราะสาเหตุนั้น โดยช่วงเวลา 400 ปีเซเรฟก็รอคอยได้เห็นโลกมาตลอด 400 ปี เมื่อใดเซเรฟตาย นัตสึก็ตาย กับอีเทอร์เรียสทั้งหมดก็ตายตาม
- ความทรงจำแห่งดวงดาว
- สถานที่ที่บันทึกความทรงจำของเทพแห่งดวงดาวกับผู้ใช้มาหลายยุคสมัย เหมือนอีกมิติที่ฉายภาพอดีตของเทพแห่งดวงดาวกับเจ้าของ ที่เกี่ยวข้องกันจนถึงตอนที่เจ้าของเสียชีวิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น